วิธีทำแป้งโดว์ ของเล่นเสริมพัฒนาการสุดฮิตของเด็กๆ

26 August 2015
14738 view

แป้งโดว์


ข้อดีของการเล่นแป้งโดว์

แป้งโดจัดเป็นเครื่องมือส่งเสริมพัฒนาการเด็กชั้นเยี่ยม ที่สำคัญปลอดภัยและราคาประหยัดคุณแม่สามารถทำได้เอง เก็บไว้เล่นได้นานหลายครั้ง ปลอดภัย 100%g เพราะทำจากส่วนผสมที่ใช้ทำขนมทั้งหมด การเล่นแป้งโดว์เป็นการฝึกสมาธิ พัฒนาทั้ง EQ และ IQ ไปพร้อมๆกัน ผลงานการวิจัยทางสมองเด็กพบว่า การปั้นเป็นการฝึกใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กที่ดี ขณะมือหยิบจับสัมผัสกับสิ่งของ เซลล์สมองของลูกจะมีการเชื่อมต่อกันและเซลล์สมองยังสร้างสารสื่อประสาทได้มากขึ้นด้วย สอดคล้องกับผลการศึกษาของ  “เพียเจท์” นักจิตวิทยาชาวสวิสเซอร์แลนด์ เกี่ยวกับการพัฒนาการเด็ก พบว่า ความสามารถในการคิด และทักษะทางภาษาของเด็ก เกี่ยวโยงกับพื้นฐานและประสบการณ์ด้านกล้ามเนื้อ เด็กจะไม่สามารถพัฒนาทางภาษาได้ ถ้าปราศจากพื้นฐานที่มั่นคงทางด้านประสบการณ์ออกกำลังกาย และการหยิบจับสิ่งของรอบๆ ตัว เพราะเด็กปฐมวัยจะเรียนรู้จากการที่เด็กได้สัมผัสกับสื่อวัสดุต่างๆ ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขา

แป้งโดว์ส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างไร

การทำแป้งโดว์

  • ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อมัดเล็ก มือและนิ้วมือ ในการนวด นวด คลึง และปั้นแป้งโดว์
  • ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ แขนหยิบจับ ยกแป้งโดว์เล่น
  • ช่วยพัฒนาประสาทสัมพันธ์ สอดคล้องระหว่างตากับมือ ระหว่างที่ปั้นแป้งโดว์
  • ช่วยพัฒนาทักษะทางด้านภาษาในการอธิบายผลงานของตนเอง
  • ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และเสริมสร้างจินตนาการ
  • ช่วย ฝึกสมาธิทำให้เด็กจดจ่อกับงานที่ทำได้นานมากขึ้น
  • ช่วย ผ่อนคลายอารมณ์เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินขณะทำกิจกรรม
  • ช่วยฝึกทักษะการเรียนรู้ ผ่านประสาทสัมผัสทางการดมกลิ่นได้เป็นอย่างดี เพราะแป้งโดว์มีกลิ่นต่างๆ ที่คุณแม่ใส่ผสมเข้าไป
  • ช่วยเสริมสร้างความภูมิใจในตัวเอง พึงพอใจในผลงานของตน
  • ช่วยพัฒนาการทางด้านสังคม โดยเด็กสามารถเล่นแป้งโดว์ร่วมกับเพื่อน พี่น้อง คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง และญาติผู้ใหญ่ได้

play-dough1 (1)
คุณแม่ทราบข้อดีมากมายของแป้งโดว์แล้วอย่ารอช้า เรามาทำกันเลยค่ะ

ส่วนผสมแป้งโดว์

  1. แป้งอเนกประสงค์ / แป้งสาลี  3 ถ้วยตวง
  2. เกลือป่น 1 ถ้วยตวง
  3. น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง
  4. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  6. สีผสมอาหาร ผ่าน อย. 1 ช้อนโต๊ะ
  7. กลิ่นผสมอาหาร ผ่าน อย. 1 ช้อนโต๊ะ กลิ่นที่เด็กๆชอบ เช่น สตรอ์เบอร์รี่ , ส้ม , วนิลา , องุ่น , กล้วย  , แอ๊ปเปิ้ล ,  บลูเบอรี่
  8. ภาชนะผสมแป้ง
  9. กะทะเทฟลอน ( ช่วยไม่ให้แป้งติดกะทะ )
  10. พายสำหรับกวนแป้ง
  11. ถาดสำหรับนวดแป้ง
  12. ภาชนะสำหรับเก็บแป้งโดว์ได้แก่ กระปุกพลาสติกพร้อมฝา ถุงซิบล็อค

วิธีทำแป้งโดว์สุก


วิธีทำแป้งโดว์แบบสุก

  1.  นำส่วนผสมทั้งหมดผสมลงในภาชนะผสม คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกันและเนียน สำหรับ 1 สี 1กลิ่นต่อการทำ 1ครั้ง หากคุณแม่ต้องการหลายๆสีในครั้งเดียว ให้เติม เฉพาะกลิ่น ส่วนสี นำไปเติมในขั้นตอยการนวดแป้ง (ข้อ4)
  2. นำกะทะเทปลอนไปตั้งไฟอ่อนๆ เทส่วนผสมที่ได้ลงไป  เมื่อส่วนผสมเนียนดีให้เทใส่กะทะเทฟลอน กวนให้เข้ากัน อย่าให้จับตัวเป็นก้อน
  3. จับเวลาประมาณ 10 นาทีแป้งจะสุก ปิดเตาพักไว้ให้แป้งเย็น
  4. นำแป้งที่สุกแล้วอุ่นๆ – เย็น นำมานวดให้นิ่มเป็นเนื้อเดียวกัน  (กรณีทำหลายสีนำแป้งที่ยังไม่ใส่สี แบ่งเป็นก้อน ามจำนวนสีที่ต้องการแล้วค่อยหยดสีลงไปขณะนวดแป้ง )
  5. นำไปเล่นได้เลย หรือ แบ่งบรรจุในภาชนะที่เตรียมไว้

แนะนำเก้บรักษาแป้งโดว์เพื่อยืดอายุ ทำได้โดยเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท และแช่ตู้เย็นทุกครั้งหลังลูกเล่นเสร็จ แป้งโดว์สูตร Mama Expert จะมีอายุใช้งานได้นานถึง 2 เดือนหากเก็บรักษาอย่างถูกวิธี และทำถูกต้องตามขั้นตอน ขณะที่นำแป้งโดว์มาเล่นครั้งต่อๆไป พบว่าแข็งให้ผสมน้ำอุ่นๆแล้วนวด หรือหากพบว่าแฉะเกินไป นำออกจากภาชนะแล้วผึ่งลมซักระยะก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ รู้แล้วทำกันเลยรับลองลูกรักจะติดใจ

การเก็บรักษาแป้งโดว์

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

1.อาหารเสริมตามวัย 6-24 เดือน

2.อาหารกับพัฒนาการลูก

3.อาหารสำคัญในการพัฒนาภูมิคุ้มกันลูก

เรียบเรียงโดย : Mama Expert Editorial Team