เรื่องเล่าจากคุณพ่อ … อันตรายของอุปกรณ์อาบน้ำในโรงเเรมแห่งหนึ่ง

30 August 2015
680 view

เรื่องเล่าจากคุณพ่อ … อันตรายของเครื่องทำน้ำอุ่นในโรงเเรมแห่งหนึ่ง

เช้าวันเสาร์ ผมตื่นมานำจักรยานออกไปปั่นไม่ต่างจากทุก ๆ เสาร์ แต่คราวนี้ระยะทางไม่ยาวมากนักเพราะผมเพียงต้องการสัมผัสเส้นทางบางส่วน คุณภาพถนน และบรรยากาศทั่ว ๆ ไปของเกาะบินตัน ประเทศอินโดนีเซีย เกาะชายขอบของประเทศที่สิงคโปร์เช่าพื้นที่พัฒนาให้รีสอร์ทระดับไฮเอนท์เข้ามาพัฒนา เพราะห่างจากสิงคโปร์เพียง 1 ชั่วโมงด้วยเรือ เฟอร์รี่ เราเข้าพักในห้อง type ใหญ่ที่สุดของโรงแรมที่วางตัวเองให้เป็นระดับห้าดาว แต่ผมมอง ๆ สภาพความเก่าและระดับการบริการแล้วผมคงให้แค่สี่ แต่ราคานั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นราคาสิงค์โปร์ เสาร์นี้เหมือนกับอีกหลาย ๆ เสาร์ที่ผมใช้เวลาในการผ่อนคลายและจัดการเกี่ยวกับการลงทะเบียนเพื่อการแข่งขันในวันรุ่งขึ้น สำหรับชีวิตที่แข่งเฉลี่ยสองเดือนครั้งมาตลอดยี่สิบกว่าปี มันกลายเป็นกิจวัตรที่ไม่สร้างความตื่นเต้นหรือกังวลใด ๆ เลย ผมแทบไม่ทราบว่าวันนี้นั้นจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผมอีกครั้ง

ผมกลับมาที่โรงแรมพอให้มีเวลาเหลือสำหรับอาหารเช้านิดหน่อย แต่เด็ก ๆ ต้องการที่จะให้พาไปว่ายน้ำผมจึงพาพวกเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้อง เพื่อให้เวลากับภรรยาอีกเล็กน้อยกับอาหารเช้า เด็ก ๆ โตก็เปลี่ยนเสื้อผ้าได้เองแล้ว ส่วนเจ้าตัวเล็ก ฮารุ ผมยังต้องเปลี่ยนชุดให้เขาอยู่ ผมถอดเสื้อผ้าและผ้าอ้อมเขาออกแล้ววางเขาลงที่อ่างอาบน้ำ เพื่อจะล้างก้นให้เขาเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำ ผมเปิดน้ำที่อ่างอาบน้ำ แล้วคว้ามือจับฝักบัวสายอ่อนไว้ในมือข้างซ้าย สายน้ำพุ่งของจากก๊อกลงอ่างรวดเร็วรุนแรง เป็นไปตามปกติของระบบน้ำของโรงแรมระดับห้าดาวทั่วไปที่ผมเองก็มองว่าความดันน้ำในระบบก็เป็นส่วนที่สำคัญต่อประสบการณ์ที่โรงแรมชั้นนำจะให้กับผู้เข้าใช้บริการเกิดความประทับใจหรือผิดหวังกลับไปได้ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่เราเรียกร้องในฐานะผู้ใช้บริการนั้นจะกลับมาย้อนให้เกิดสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของผมอีกครั้งหนึ่ง

ผมยื่นมือขวาเอื้อมไปเพื่อที่จะดึงจุกเปลี่ยนทิศทางของน้ำจากก๊อกลงอ่างจะให้ไปสู่ฝักบัวสายอ่อนที่ถืออยู่ในอีกมือหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ยื่นนิ้วไปสัมผัสกับนำ้ที่ไหลลงมาเพื่อทดสอบอุณหภูมิของน้ำ เมื่อทุกอย่างปกติผมจึงดึงจุกเปลี่ยนน้ำนั้น ทั้งหมดทั้งสิ้นใช้เวลาประมาณไม่เกินสามวินาที ผมได้ยินเสียงตะกุกตะกักเหมือนเสียงการเดินทางของน้ำผ่านท่อเข้ามาอีกเส้นหนึ่ง น้ำพุ่งแรงเหมือนน้ำห้องน้ำโรงแรมชั้นนำทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไป ลูกสาวตัวน้อยของผมกรีดร้อง ตะเกียกตะกาย ขึ้นจากอ่างอาบน้ำอย่างทุกทักทุเล ภรรยาซึ่งเห็นเหตุการณ์กรูเข้ามาช่วยดึงตัวขึ้น ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นก็มีควันพวยพุ่งออกจากฝักบัว อ่างอาบน้ำ เราทุกคนจึงรับทราบว่าน้ำร้อนคงลวกฮารุตัวน้อยของเราเสียแล้ว ภรรยารีบนำฮารุมาราดด้วยน้ำเย็นที่อ่างล้างหน้า ความตระหนกตกใจแสดงผ่านออกมาผ่านเสียงร้องไห้และสายน้ำตาของภรรยา ท่ามความฉุกละหุกปนเสียงร้องโหยหวนของฮารุ เด็กโตทั้งสองที่ยืนรอที่จะไปว่ายน้ำในห้องน้ำยืนมองตัวแข็งด้วยความตกใจ เหตุการณ์นี้รวมเวลาทั้งหมดประมาณสิบวินาที หนังบริเวณหว่างขาของฮารุหลุดลอกจนเห็นเนื้อแดง ๆ ภายใน ในขณะที่บริเวณอื่น ๆ แดงก่ำ ตั้งแต่บริเวณก้นลงไปยังขาทั้งสองข้าง ภาพเหตุการณ์นี้เวียนวนไปมาในหัวของผมเป็นภาพช้า ราวกับเป็นเหตุการณ์ยาวนานนับชั่วโมง

เราพาฮารุผู้น่าสงสารลงไปที่ล๊อปบี้เพื่อหาสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงแรมพยายามให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขับรถพาไปคลีนิคระยะทางไม่เกินห้านาที พยาบาลที่คลินิคนำผ้าชุบน้ำแข็งมาประคบ หลังจากนั้นใช้น้ำเกลือล้างแผลแล้วทาด้วย ครีม Bioplancenton แล้วบอกกับเราว่าเป็น ยาฆ่าเชื้อ พร้อมให้ยาระงับปวดลดไข้ แล้วแนะนำให้ไปโรงพยาบาล หลังจากได้เห็นการปฐมพยาบาลที่แม้แต่เราก็ยังวิตก ความหวังต่อไปของเราคือโรงพยาบาลเนื่องจากเราคิดว่าที่นี่น่าจะมีอุปกรณ์ไม่เพียงพอ เรากลับไปที่โรงแรมอีกครั้ง ผู้ช่วยผู้จัดการแนะนำว่าเราควรกลับขึ้นไปที่สิงคโปร์ ไม่แนะนำให้ไปโรงพยาบาลที่นี่ ผมเริ่มวางแผนการในหัวอย่างช้า ๆ แล้วบอกว่าในขณะที่เราต้องรอ เฟอร์รี่ ข้ามกลับไปสิงค์โปร์เราขอไปดูที่โรงพยาบาลของเกาะดูดีกว่า เพราะในขณะนี้แผลของน้องเปิดกว้าง เรากลัวเรื่องการติดเชื้อและการดูแลทั่ว ๆ ไป โรงพยาบาลอยู่ห่างจากโรงแรมพอสมควรต้องขับรถข้ามไปใช้เวลาถึง 45 นาที คนขับรถของโรงแรมขอเข้าใช้เส้นทางลัดข้ามเขา ลัดเลาะคดเคี้ยวขนาดที่ว่าเมื่อถึงจุดหมายภรรยาของผมถึงกับต้องลงไปอาเจียร ระหว่างที่นั่งรถข้ามภูเขาไปนั้น แผลของฮารุก็ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ เริ่มมีตุ่มน้ำพุพองเกิดขึ้นทีละเล็กละน้อย และดูเหมือนว่าจะยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง ผมโทรศัพท์ทางไกลไปหาหมอนกเพื่อนของผมที่เป็นเสมือนหมอเด็กประจำครอบครัวของผม แล้วส่งภาพให้ดู หมอนกเห็นภาพขณะนั้น ซึ่งเป็นรอยแดงและมีตุ่มพุพองเป็นหย่อม ๆ ก็ประเมินคร่าว ๆ ว่าน่าจะเป็น 1st degree burn หมอบอกว่าโดยทั่วไปก็พยายามไม่ให้แผลแตกเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ในการรักษาหมอน่าจะขัดผิวหนังที่ตายออกเพื่อเปิดแผลแล้วใช้ครีมขาว ๆ ลักษณะเป็นฟอง ๆ ทาให้ความชุ่มชื้นกันติดผ้าแล้วพันผ้ารอบ ๆ ป้องกันการติดเชื้อพร้อมให้ยาแก้ปวด และ ยาฆ่าเชื้อ ผมทำเช่นนี้ทุกครั้งเมื่อมีเหตุการณ์ความเจ็บป่วยในครอบครัวของผม ทำความเข้าใจกับปัญหา เรียนรู้วิธีมาตรฐานในการจัดการกับปัญหา และเรียนรู้ถึงความเป็นไปของโรครวมไปถึงภาวะเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น

IMG_0190IMG_0226

เมื่อไปถึงโรงพยาบาลซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กมาก ๆ ไม่แน่ใจว่ามีห้องผ่าตัดหรือไม่ พยาบาลก็เข้ามาทำแผลให้ฮารุอีกครั้ง ในตอนนี้ตุ่มพุพองเริ่มเยอะมากและดูน่ากลัว ขั้นตอนการทำแผลก็ไม่ต่างจากเดิม ใช้ยาตัวเดิมในการทาบนแผล ให้เพิ่มสองหลอดกลับโรงแรม สั่งยาชื่อว่า Sibro มาให้นอกเหนือจากยาแก้ปวดและ ยาฆ่าเชื้อ บอกว่าเป็นยาช่วยสร้างผิวใหม่ คุณหมอขอถ่ายภาพร่วมกับผมเมื่อทราบว่าเป็น
นักกีฬามาแข่งไอรอนแมน 70.3 พร้อมกับบอกว่าแผลใหญ่แต่ไม่ลึก ไม่มีการไหม้ลงไปที่เนื้อหรือเส้นประสาทใด ๆ ไม่ต้องกังวล เป็นเพียงการไหม้ผิวหนัง ผมพยายามถามว่าระดับนี้เรียกว่า 1st degree burn หรือไม่เพื่อจะมาใช้สื่อสารกับเพื่อน ๆ หมอของผมในคราวต่อไป แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน หมอแนะนำให้เปิดแผลทิ้งไว้เพราะจะทำให้หายเร็วกว่า ไม่ควรโดนน้ำ เราก็มองหน้ากันแบบงง ๆ เพราะบริเวณที่ไหม้นั้นจะต้องเปื้อนสิ่งขับถ่ายของฮารุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วการจัดการต้องเป็นอย่างไร สามารถใส่ผ้าอ้อมได้หรือไม่ ผมถามหมออีกครั้งหมอบอกว่าไม่ต้องทำอะไร แค่หวังว่าในวันรุ่งขึ้นแผลน่าจะแห้ง แล้วสามารถใส่ผ้าอ้อมได้ แต่วันนี้นั้นแนะนำให้ปล่อยแบบนี้ไว้ก่อน ผมสบายใจขึ้นเล็กน้อยแผลไหม้ไม่ลึกมาก แม้ว่าจะเป็นบริเวณกว้างก็เป็นความเจ็บปวดชั่วคราว ไม่น่าจะมีเรื่องของการซ่อมแซมระยะยาว การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ที่ต้องกังวล หมอบอกว่าไม่ต้องปิดแผลไม่ต้องทำอะไรพิเศษ ไม่ต้องกลับมาทำแผลในวันรุ่งขึ้น เพียงแค่ล้างด้วยน้ำเกลือแล้วทาครีมที่สั่งให้ไป ไม่ควรปิดแผลและใส่ผ้าอ้อมเท่าที่จำเป็น เราจึงขอให้คนขับรถและผู้ดูแลส่วนตัวของเราในการพักครั้งนี้ให้ช่วยหายาตามที่หมอสั่งไว้ให้ แล้วหาอาหารการกินให้เราสักนิด เพราะคาดว่าเราคงไม่น่าจะออกเดินทางไปสิงค์โปร์ในคืนนี้แน่นอน

ในตอนนี้ฮารุเริ่มหยุดร้องแล้ว แต่ยังอารมณ์ไม่ดีนัก เราไปทานอาหารเที่ยงกันที่ร้านอาหารพื้นเมือง ภรรยาผมร้องไห้จนไม่มีน้ำตาเหลืออีกแล้ว ผมเพิ่งเข้าใจคำว่าร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดก็ตอนนี้ ไม่ใช่จากฮารุที่ร้องด้วยความเจ็บปวด และความตกใจ แต่จากภรรยาที่ร้องไห้ใจจะขาดรอน ๆ ภรรยาของผมทานอะไรไม่ลงในขณะที่ฮารุมีอาการทางจิตใจดีขึ้น สภาพของเขาทำให้เราอุ้มเขาไม่ได้ และเขาเองก็นั่งลงไม่ได้ เราจะเห็นภาพของเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ตาหวานใส รูปร่างเล็ก น้ำหนักตกเกณฑ์กว่าครึ่งหนึ่ง ยืนโยกเยกดูดน้ำมะพร้าวจากลูก ผมเร่ิมตั้งสติได้มากขึ้นมาก เริ่มคิดและวางแผนชีวิตในช่วงต่อไป ในขณะเดียวกันก็เริ่มสำรวจร่างกายของลูกสาวที่ตอนนั้นหมอชาวอินโดประเมินว่าเป็นการไหม้เพียงผิวหนัง และจากรูปที่ให้หมอนกไปนั้นก็มองคร่าว ๆ ว่าเป็น 1st degree burn จากการสำรวจคร่าว ๆ ของผมเองก็น่าจะเป็นพื้นที่ประมาณ 25-30% ของร่างกาย ผิวที่เคยเป็นแดง ๆ ก็มีตุ่มน้ำขึ้นทั่วทั้งพื้นผิว ตุ่มน้ำที่ขึ้นในช่วงแรก ๆ ก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากเมล็ดถั่วเหลือง ค่อย ๆ กลายเป็นขนาด M&M ผลองุ่น มีบางลูกขยายจนมีขนาดประมาณลูกกอล์ฟ หนังรับน้ำหนักไว้ไม่ไหว ห้อยโตงเตงไปมาตามจังหวะการขยับตัวของฮารุ ผิวหนังส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำหมดแล้วในเวลานี้ จากสีที่เคยแดง พื้นที่ที่เคยดูเหมือนไม่โดนน้ำร้อนบางส่วนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เช่น ฝ่าเท้าทั้งสองข้าง

IMG_0189

หลังจากอาหารเที่ยงเรามุ่งหน้ากลับโรงแรมเพื่อพบกับผู้จัดการซึ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ถามไถ่แล้วให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราระบบน้ำร้อน ซึ่งผมคาดว่าได้มีการเดินไล่ตรวจมาแล้วในช่วงที่เราไม่อยู่ แต่ก็มีการเรียกให้ช่างมาตรวจปรับในห้องนอนของเราอีกเป็นระยะเวลานาน ภายในห้องนอนของเรา ผมยังไม่เข้าใจว่าช่างเข้ามาทำอะไร เพราะระบบต้มน้ำของโรงแรมนั้นอยู่ด้านนอก คิดว่าน่าจะมีความพยายามในการที่จะปรับก๊อกผสมที่อยู่ภายในห้องน้ำ เพราะผมย้ำว่าเขาต้องมั่นใจว่าเขาปรับทุกอย่างให้ปลอดภัย เท่าที่คุยกับผู้จัดการ เขาย้ำอยู่ในสองสามเรื่อง คือเรื่องแรกทิศทางของก๊อก ฝั่งร้อนและเย็นที่พยายามให้ผมคิดว่าผมเองอาจจะพลาดได้ เรื่องที่สองคืออุณหภูมิของน้ำที่จะตั้งไว้ไม่เกิน 80 องศา ในขณะที่ผมพยายามบอกให้รู้ว่าผมเป็นวิศวกรเครื่องกล และเข้าใจได้เองว่าการตั้งอุณหภูมิค่าเท่าไรนั้นไม่ได้บ่งบอกเลยว่าน้ำจริง ๆ จะมีอุณหภูมิเท่าไร ในขณะเดียวกันในเวลาที่ผมขอให้ปรับอุณหภูมินี้ลงเหลือ 60 นั้น เขาย้ำผมหลายครั้งด้วยเหตุผลที่ว่าการปรับนั้นจะกระทบกับห้องอื่น ๆ ด้วยซึ่งผมก็ยืนยันเช่นนั้น ด้วยเหตุว่าน้ำร้อนขนาดที่ลวกเด็กได้ในเสี้ยววินาทีนั้นไม่ใช่อุณหภูมิที่ควรจะมีอยู่ในอ่างอาบน้ำไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ แต่นี่ก็เป็นสิ่งผิดปกติที่ผมไม่ค่อยชอบเพราะผมเห็นหม้อต้มที่แยกกันในแต่ละห้องพร้อมกับสวิทช์ปิดเปิดที่แยกอิสระสำหรับหม้อต้มแต่ละตัว พร้อมคำอธิบายให้เปิดสวิทช์ก่อนใช้น้ำร้อนประมาณ 40 นาที นั่นหมายความว่าข้อมูลที่ผู้จัดการให้ผมนั้นไม่เป็นความจริง จะด้วยเจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการแต่นั่นหมายความว่า เขาพยายามให้ผมคิดว่าน้ำร้อนที่ลวกลูกสาวของผมนั้นเป็นอุณหภูมิเดียวกันกับห้องอื่น ๆ เขาถามผมเรื่องการแข่งขัน แต่ผมได้ตัดสินใจแล้วว่าในสภาพเช่นนี้ผมไม่มีอารมณ์ไปแข่งขัน 7-8 ชม. แต่จะกลับเมื่อไรอย่างไรนั้นผมขอคุยกับภรรยาของผมก่อน ผมดูท่าทางผู้จัดการแล้วไม่มีท่าทีที่จะแสดงความรับผิดชอบอื่นใดนอกเหนือจากที่ได้พาเราไปโรงพยาบาลแม้แต่อาหารระหว่างที่เราจะต้องรอเวลากลับในอีกสองวันข้างหน้า ผมมีอาหารอยู่เล็กน้อยจากที่ซื้อเข้ามา พร้อมกับข้าวและหม้อหุงข้าวที่ผู้ดูแลส่วนตัวของเราหามาให้ ผู้ดูแลและคนขับรถย้ำกับเราว่าควรจะเรียกร้องกับผู้จัดการให้มากที่สุดเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตราย ผมเองก็เริ่มเข้าใจบรรยากาศเล็กน้อย

IMG_0192IMG_0193

ผมนั่งคุยกับภรรยาที่ตอนนี้เริ่มค้นหาตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับหาดใหญ่ และร้อนใจถึงขนาดที่จะต้องนั่ง เฟอร์รี่ เที่ยวต่อไปเพื่อไปหาตั๋วอะไรก็ได้กลับประเทศไทยไว้ก่อน ผมมองว่ามันเป็นความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น ฮารุมีจิตใจดี แผลไม่ลึก มีความเสี่ยงเรื่องของการติดเชื้อ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกวันสองวัน ความร่าเริง และอารมณ์ที่ดีของฮารุ ทำให้เขากินอะไรสม่ำเสมอ ความเสี่ยงของการ dehydrated ก็น้อยลง การรออีก 1-2 วันยังมีความเป็นไปได้ เราจึงตัดสินใจกันว่าเราจะกลับกันในวันรุ่งขึ้น ในสายการบินเดิมจากสิงค์โปร์ไปหาดใหญ่ จึงขอให้ผู้จัดการเปลี่ยนตั๋วเฟอร์รี่ให้กับเรา แต่เราต้องรอลุ้นกันถึงตอนสองทุ่มในเวลาที่เฟอร์รี่เปิดทำการเที่ยวสุดท้ายของวัน การเปลี่ยนตั๋วเป็นไปอย่างราบรื่นเราได้ตั๋วกลับเที่ยวแรกของวันถัดไป เราจึงจองตั๋วเครื่องบินกลับในวันรุ่งขึ้นทันทีซึ่งก็โชคดีที่ไม่ใช่เที่ยวบินที่เป็นที่นิยมตั๋วสี่ใบจัดหาได้ในราคาไม่ต่างจากตั๋วที่จองหนึ่งเดือนล่วงหน้า

11911225_1163471590346085_49435683_n

ฮารุเหนื่อยหลับไปแล้ว เขาต้องนอนคว่ำหน้าเท่านั้นในเวลานี้ มีตื่นมาเรียกหาแม่เพื่อกินนมบางครั้ง ซึ่งผมต้องออกไปเรียกแม่ที่นอนอยู่ในห้องถัดไป ด้วยความทรมานทางจิตใจของผู้เป็นแม่ที่ยังไม่ลดเลือน ไม่สามารถทำใจให้นอนกับลูกที่ในเวลานี้ถุงน้ำพุพองหลาย ๆ ถุงได้แตกออกหมดแล้ว เห็นแต่เนื้อสด ๆ สีแดงเรื่อ ๆ ทั่วทั้งบริเวณบั้นท้ายและขา ภรรยาผมใช้ช่วงเวลาที่นอนไม่หลับนี้ เยียวยาจิตใจตนเองด้วยการคุยกับทุกคนที่ติดต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นน้องสาวและแม่ที่เมืองไทย น้องสาวที่อเมริกา เพื่อนของผม หรือเพื่อนของเธอเองที่เมืองไทย บางครั้งเพียงเล่าเรื่อง บางครั้งขอคำปรึกษาในการรักษา ผมเองนั้นนอนหลับอยู่กับฮารุ โชคดีที่ภรรยาเลือกที่จะปรึกษากับหมอแป๊ะหมอที่ทำคลอดให้กับลูกเราทุก ๆ คน เมื่อแป๊ะรู้เรื่องจึงได้เตรียมการรักษาฉุกเฉินไว้ให้ที่เมืองไทย คืนนั้นจริง ๆ แล้วไม่มีใครนอนหลับเราเก็บของทุกอย่างลงกระเป๋า รวมทั้งจักรยานที่เพิ่งประกอบได้ไม่นานนัก

จากการพูดคุยของภรรยาทำให้เราเรียนรู้ว่าเราเองนั้นขาดความรู้พื้นฐานในการปฐมพยาบาลผู้ป่วยน้ำร้อนลวกอย่างแท้จริง ในความจริงนั้นเราต้องพยายามลดความร้อนที่ระอุภายใต้ผิวหนังด้วยการประคบน้ำ แช่น้ำ หรือผ้าชุบน้ำตลอดเวลาและยาวนานที่สุดที่จะทำได้ระหว่างที่รอคอยการรักษาที่เหมาะสม แต่ด้วยความรู้ที่ไม่มากพอเราใช้เพียงน้ำราดในช่วงแรก ๆ หลังจากนั้นเราก็ได้แต่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปไม่ได้ช่วยอะไรกับแผล สิ่งที่จำ ๆ กันมาประเภททายาสีฟัน ว่านหางจรเข้ หรือใช้บัวหิมะอะไรนั่นเอามาใช้ประโยชน์ในยามฉุกเฉินแบบนี้ไม่ได้เลย เราเรียนรู้ว่าในแผลเปิดขนาดใหญ่ความเสี่ยงของการ dehydrated นั้นน่ากลัวกว่าการติดเชื้อในวันแรก ๆ และที่สำคัญมาตราการในการรักษาของแต่ละที่ แต่ละโรงพยาบาลนั้นมีความแตกต่างกันเนื่องจากเขาให้ความสำคัญของผลของการรักษาในแง่ต่าง ๆ กันที่แตกต่างกัน

IMG_0217IMG_0218

เช้าวันรุ่งขึ้นเราต้องเตรียมตัวตั้งแต่หกโมงเช้า เพราะภรรยาต้องการไปคลีนิคเพื่อปิดแผลเท่าที่ทำได้ เราได้ขอให้ทางโรงแรมจัดหาอุปกรณ์ปิดแผลไว้ให้ แต่ต้องการไปทำที่คลีนิคเพราะคิดว่าน่าจะสะอาดกว่าการทำเองที่โรงแรม เมื่อไปถึงก็พบว่าอุปกรณ์ปิดแผลที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้นั้น ไม่เป็นอย่างที่เราคิด ทางคลินิคไม่ได้ปิดแผลหรือทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมนั่นคือล้างด้วยน้ำเกลือและทาด้วยครีม ยาฆ่าเชื้อ ลงบนผิวเปิดแดง ๆ ทั่วท่อนล่างของฮารุ วันนั้นเราให้ฮารุใส่ dress ผ้าลูกฟูกน่ารัก เนื้อผ้าบานออกเล็กน้อย และเราไม่ให้ใส่ผ้าอ้อมเพราะยังไม่จำเป็น เราเพียงต้องคอยเช็ดอุบัติเหตุที่เกิดระหว่างการเดินทางข้ามเรือจากบินตันไปสิงค์โปร์เท่านั้น ทางโรงแรมจัดให้เราอยู่ในห้อง VIP ทำให้ไม่ต้องปะปนกับผู้คนส่วนใหญ่ที่มาขึ้นเรือ แต่ทุกครั้งที่ต้องยกตัวฮารุ เสื้อที่เปิดขึ้นให้เห็นร่องรอยของแผลนั้น ก็เรียกสายตาสงสัยรอบ ๆ ตัวอย่างมากมาย เราผ่านการเดินทางข้ามทะเลจากเกาะบินตัน มายังเกาะสิงค์โปร์อย่างราบเรียบ เสียเวลาที่ ตม. ไม่มากนัก เหมือนว่าการ transit จากบินตันไปยังประเทศอื่น ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติมาก ๆ เราเรียกแทกซี่พิเศษเพื่อตรงไปสนามบินชางกีในทันที ขณะนั้นเวลาประมาณ 10:30 น. เครื่องบินที่จองไว้ออกเวลา 13:20 น. มีเวลาไม่มากนักสำหรับการ check in ต่างประเทศ พร้อมจักรยาน แถมด้วยการทำแผลให้ฮารุ

IMG_0202IMG_0203

ขั้นตอนการทำแผลให้ฮารุนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่เราคาดไม่ถึง ในใจเราเพียงต้องการปิดแผลให้ลูกเพื่อความสะดวกในการเดินทาง เพื่อช่วยให้สามารถใส่ผ้าอ้อมเป็นไปได้มากขึ้นเนื่องจากหนังที่ก้นของฮารุทั้งสองข้างเปิดทั้งหมดเห็นเป็นเนื้อสด ๆ แดง ๆ ภรรยาผมพยายามหาผ้าปิดแผลแบบเปียก ๆ โดยไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร นั่นก็เป็นความลำบากอีกอย่างหนึ่ง ภรรยาได้ Bactigras : Medicated Paraffin Gauze Dressings มาพร้อมกับผ้าก๊อซแบบยืด ๆ ไม่รู้เรียกว่าอะไร ซึ่งเพียงพอที่จะทำแผลชั่วคราวสำหรับการบินข้ามประเทศ เจตนานี้ร่วมกับภาวะทางอารมณ์ของฮารุที่มั่นคง กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เราได้เดินทางกลับมารักษาต่อที่เมืองไทยได้ เราปิด Bactigras ทั่วทุกแผลที่มองเห็น แล้วพันผ้าก๊อซทุกที่ที่พันได้ ส่วนบริเวณก้นก็ใช้ผ้าอ้อมใส่ซ้อนเข้าไป ขณะนี้ฮารุเริ่มไม่สามารถยืนได้ดั่งใจแล้ว 1st degree burn ที่ฝ่าเท้าเริ่มระบม การอุ้มแทบเป็นไปไม่ได้เลยมันยากลำบากมาก ปกติเราจะช้อนรักแร้แล้วให้ยืนบนฝ่ามือ ช้อนก้นที่เต็มไปด้วยแผลไหม้นี่เป็นไปไม่ได้ แต่เท่านี้ก็เพียงพอให้เราสามารถทำตัวเนียนพาเด็ก ๆ ขึ้นเครื่องบินได้ ถึงขนาดกลุ่มหมอที่มารอรับเราที่สนามบินหาดใหญ่ถามด้วยความสงสัยว่าเขายอมให้ขึ้นเครื่องบินได้อย่างไร เพราะโดยปกติเด็กที่มีอาการป่วยระดับนี้จะไม่อนุญาติให้ขึ้นเครื่องบินได้ เพราะค่าใช้จ่ายในการลงฉุกเฉินที่ใดที่หนึ่งนั้นมันสูงกว่าที่สายการบินจะยอมรับความเสี่ยงนั้นได้

IMG_0205

ที่สนามบินหาดใหญ่คณะแพทย์ รพ. มอ. เตรียมรับเราไว้อย่างดี ตั้งแต่รถพยาบาลพร้อมทีมแพทย์รอที่สนามบิน คณะแพทย์ศัลยกรรมพลาสติก แพทย์วิสัญญีเตรียมตัวพร้อมสำหรับการดมยา เพื่อขูดแผลทั้งหมดซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่เป็นมาตรฐานของที่นี่ เราแจ้งทางทีมแพทย์ว่าเราได้รับแจ้งจากแพทย์ช้าไม่ทันเวลาเราจึงให้ฮารุอดอาหารไม่ทัน แต่นั่นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเดินทางขึ้นเครื่องเป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะฮารุแม้ว่ามีแผลไหม้ครึ่งตัว แต่เขายังร่าเริงอยู่ได้ด้วยขนมและอาหารต่าง ๆ ที่มีให้เลือกทานเล่นตลอดการเดินทาง รวมไปถึงการดูดนมแม่ที่ช่วยได้หลาย ๆ อาการ ถ้าเราทราบเรื่องการอดอาหารเพื่อมาดมยาก่อนหน้านี้ การเดินทางกลับอาจจะเป็นไปไม่ได้เลย ฮารุอาจจะมีอาการงอแงจนเป็นที่สงสัยแล้วไม่ถูกอนุญาติให้ขึ้นเครื่องได้เช่นวันนั้น ผมให้ฮารุและภรรยาล่วงหน้าไปก่อนบนรถพยาบาล ส่วนเซน ซาช่าอยู่กับผม เก็บสัมภาระแล้วขับรถตามไป

IMG_0208IMG_0206

ผมมารอด้านหน้าห้องฉุกเฉินเพราะในช่วงนั้นไม่สามารถติดต่อภรรยาได้ ภรรยาเล่าให้ฟังว่าเนื่องจากฮารุไม่ได้อดอาหารมาก่อน ทำให้การดมยาเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มีความเสี่ยงมาก แต่จะรอเพื่อทำแผลอีก 5-6 ชม. ก็เป็นสิ่งไม่ดี ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากเพราะแผลใหญ่ นอกเหนือจากความเสี่ยงของการ dehydrated แล้วก็ยังต้องมีเรื่องติดเชื้อที่จะทำให้การรักษาเป็นเรื่องซับซ้อนมากขึ้น คุณหมอศัยลกรรมพลาสติกซึ่งเป็นรุ่นน้องโรงเรียนสาธิตเช่นกันจึงตัดสินใจที่จะขูดสด ฮารุผู้น่าสงสารจึงต้องถูก buff แผลสด ๆ ครึ่งตัว เป็นไหวพริบของแม่ที่ท่องนิทานให้กับฮารุ กลายเป็นกิจกรรมสนุกที่ทดแทนเสียงกรีดร้องที่คิดว่าจะเกิดขึ้น เหล่าแพทย์และพยาบาลถึงกับตะลึงในความอึดถึกทนของฮารุตัวน้อย เมื่อขูดแผลเรียบร้อย ก็ถูกปิดแผลด้วยแผ่นพอลิยูรีเทนโฟมที่มียาฆ่าเชื้อ เป็นนวัตกรรมที่ก้าวหน้ากว่าที่หมอนกเคยบอกเอาไว้ แผ่นวิเศษนี้จะช่วยซับน้ำเหลืองและให้ยาไปพร้อม ๆ กัน ทำให้สามารถปิดแผลนี้ไว้เป็นระยะเวลานานไม่ต้องเปิดออกเพื่อทำความสะอาด ส่งผลให้เวลาในการรักษาลดสั้นลงเป็นอย่างมาก แพทย์สรุปว่าฮารุไม่อาการ 2nd degree burn แบบตื้น ประมาณ 25-30% อาจจะมีบางจุดที่เป็น 2nd degree burn แบบลึกแต่คาดว่าไม่น่าจะมีมากนัก และมี 1st degree burn บางส่วนบริเวณเท้าและฝ่าเท้า

เราย้ายเข้าพักในห้องพิเศษ ฮารุรับน้ำเกลือพร้อมยาอีกประมาณ 2-3 ขวดก็หยุด เพราะร่าเริง ทานอาหารได้ตามปกติ แต่ก็ยังคงต้องอยู่โรงพยาบาลเพื่อรอให้แผลหายในระดับหนึ่ง รอเปิดแผลดูอาการอีกครั้งประมาณ 3, 5, 7 วันเพื่อประเมินตามลำดับ ความซับซ้อนของการรักษาอยู่ที่แผลบริเวณบั้นท้ายที่จะต้องคอยทำความสะอาดให้ดีทุกครั้งที่ฮารุถ่ายหนัก และระยะหลัง ๆ ที่ฮารุเริ่มมีอาการคันบริเวณแผล และรอบ ๆ ที่ปิดแผลมากจนรบกวนการนอนของเขา มีการทายา ทาโลชั่น และให้ยากินบ้างเล็กน้อย เราคาดว่าต้องอยู่โรงพยาบาลอย่างน้อยประมาณ 5-7 วัน เพื่อเปิดแผลดูครั้งแรก เปลี่ยนแผ่นปิดแผลประเมินสภาพของแผลว่าจะสามารถกลับไปดูแลที่บ้านแล้วกลับมาทำแผลเพียงอย่างเดียวได้หรือไม่ แต่ 6 วันผ่านไปเปิดแผลดูครั้งแรก ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้แผลที่ขาแห้งดีพอสมควรแล้ว แกะแผ่นปิดแผลและปิดใหม่ได้ทันที แต่บริเวณที่มีปัญหาคือบริเวณบั้นท้ายที่มีการดูแลที่ลำบากกว่าแผลยังไม่แห้งและแผ่นปิดแผลยังติดกับแผลอยู่ นวัตกรรมชิ้นนี้ไม่ได้ทำงานได้ไร้ความผิดพลาดอย่างที่หวัง แผลยังไม่แห้งดี มีการเปิดออกเมื่อลอกบ้างเล็กน้อยสร้างความทรมาณให้กับฮารุอีกครั้ง เรายังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไร เรามีแผนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า เราก็ได้แต่หวังว่าแผลคงปิดสนิทพอที่จะเดินทางและดูแลแผลด้วยตัวเองได้ก่อนไป เราได้แต่คาดหวังว่าคำวินิจฉัยเบื้องต้นของหมอที่บอกว่าทุกอย่างเกิดที่ผิวหนังไม่น่าจะเกิดปัญหาหรือแม้แต่แผลเป็น เพราะการดูแลแผลน้ำร้อนลวกใหญ่ขนาดนี้น่าจะไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ

11923211_10154233576708009_7872921284934627575_n

มีหลาย ๆ อย่างที่เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์นี้ การปฐมพยาบาลและดูแลแผลน้ำร้อนลวก รวมไปถึงความเสี่ยงและความซับซ้อนที่จะตามมา สิ่งที่ต้องระวัง การออกแบบที่น่าจะสร้างความเสี่ยงในระบบน้ำร้อนของโรงแรม ทุก ๆ โรงแรมที่เราจะต้องเดินทางไปพานพบอีกมาก ผมคิดว่าสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดตามความคิดของผมที่เป็นวิศวกรเครื่องกลคือ โรงแรมใช้ระบบหม้อต้มที่อาจจะมีปัญหาเรื่องอุณหภูมิของน้ำสูงเกินไม่ ไม่ว่าจะเป็นเพราะตั้งไว้สูงเกินไปหรือเป็นความเสียหายของระบบควบคุมอุณหภูมิ ระบบเพิ่มความดันของน้ำร้อนที่ออกจากหม้อต้ม การออกแบบระบบความดันให้สมดุลย์กับระบบความดันของน้ำเย็นที่น่าจะใช้ระบบความดันแยกกับน้ำร้อนไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมีการใช้น้ำระหว่างทางระหว่างท่อค่อนข้างมาก สิ่งที่ผมคาดว่าเกิดขึ้นกับผมคืออุณหภูมิน้ำที่หม้อต้มที่สูงร่วมกับปั้มเพิ่มความดันของน้ำร้อน เมื่อมีการปรับน้ำก๊อกจากน้ำลงอ่างไปยังสายฝักบัวความดันที่ตกลงในทันทีไปสั่งให้ปั้มความดันน้ำร้อนทำงาน ปั้มน้ำร้อนซึ่งอยู่ใกล้กว่าปั้มน้ำเย็นมีพลังสูงกว่า ใกล้กว่า ทำงานได้เร็วกว่าปั้มน้ำเย็น น้ำร้อนที่ร้อนเกินความปลอดภัยจึงพุ่งแทรกน้ำเย็นออกมาทันที หลายคนพูดถึงเรื่องประกัน ซึ่งผมขอบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่าเรื่องเงินไม่เคยเป็นปัจจัยของผม การทำประกันหรือไม่ไม่ทำให้เกิดความแตกต่างใด ๆ ในกรณีนี้ หลายคนถามเรื่องการร้องเรียนการเรียกร้องความรับผิดชอบของโรงแรม ผมกำลังรวบรวมความคิดในเรื่องนี้อยู่ ผมไม่มีความต้องการเรียกร้องด้านเงินตรา แต่ผมอยากเห็นการแสดงความรับผิดชอบ อยากสร้างประสบการณ์ทดแทนให้กับเด็ก ๆ และครอบครัว อยากเห็นมาตรการป้องกัน การแก้ไขระบบของเขานี่เป็นสิ่งสำคัญที่ผมต้องการเห็น

IMG_1659

สิ่งที่เกิดขึ้นตอนต่อไป ผมจะค่อย ๆ มารายงานให้ทราบต่อไปครับ หวังว่าเรื่องราวของครอบครัวเราจะสามารถช่วยป้องกันขั้นพื้นฐานให้กับครอบครัวอื่น ๆ ในขณะที่ความพยายามอีกระดับในอนาคตของผมนั้นจะสร้างความปลอดภัยขึ้นกับระบบ รวมถึงปรับมาตรฐานความรับผิดชอบของโรงแรมทั้งระบบโดยรวม และที่สำคัญที่สุดทำให้ภรรยาของผมพอใจกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งผมเองยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าภรรยาของผมต้องการอะไร ในระยะยาวถ้าผมเรียกร้องได้ไม่ตรงใจกับภรรยาของผม ชีวิตครอบครัวของผมต้องสั่นคลอนเพราะความไร้ความรับผิดชอบของโรงแรมเครือหนึ่งเพียงเท่านั้น

 

ขอบคุณข้อมูล : คุณพ่อน้องฮารุ appleops

  • No tag available