เปิดใจพ่อวัยใส อายุ 21 ปี “เฉลิมเกียรติ” หนุ่มอุดรฯ เผยชีวิตคู่ไปไม่รอด สุดท้ายแยกทางกัน เจ้าตัวรับเลี้ยงลูกเอง ชี้บทเรียนความผิดพลาด กลายเป็นประสบการณ์ สอนให้เป็นผู้ใหญ่ คำนึงถึงอนาตคของลูกชาย
หากใครยังพอจำได้ ก่อนหน้านี้ ชาวเน็ตได้แชร์กระทู้ “จากวัยเฟี้ยวต้องมาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว” เผยเรื่องราวของหนุ่มใสวัย 23 ปี ที่ต้องกลายมาเป็นคุณพ่อแบบจับพลัดจับผลูไม่รู้ตัว จนถูกแชร์กดไลค์อย่างล้นหลาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ค. บนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างพากันแชร์เรื่องราวจากสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อว่า “Chaloemkiad Thipruecha” คุณพ่อวัยหนุ่ม อายุ 21 ปี ระบุข้อความว่า “ผู้ชายอบอุ่นหอบลูกไปด้วยทุกที่ จะมีผช.กี่คน ที่ทำหน้าที่แบบนี้” เรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง จนกลายเป็นกระแสความสนใจของนักท่องไซเบอร์ ตามที่ปรากฏมาแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเฉลิมเกียรติ ทิพฤชา อายุ 21 ปี คุณพ่อวัยใสคนดังกล่าว เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดผ่าน “เดลินิวส์ออนไลน์” ด้วยว่า ย้อนกลับไปเมื่อตนอายุได้ 17 ปี ยังเรียนสายอาชีพอยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่ง ในจ.อุดรธานี ขณะนั้นคบกับแฟนสาว ซึ่งเด็กกว่า 1-2 ปี กำลังอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมีความสัมพันธ์กัน จนฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งจำเป็นต้องออกจากการเรียนกลางคันทั้งคู่ และจัดขันหมากสู่ขอฝ่ายหญิง แต่งงานตามประเพณี ระหว่างที่เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกัน มีผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายดูแลเป็นระยะๆ แต่ภายหลังลูกชายของตนคลอด จวบจนอายุได้ 1 ขวบกว่าๆ เริ่มมีปากมีเสียงกับแม่ของเด็ก ในที่สุดจึงตัดสินใจแยกทางกัน พร้อมกับตกลงเรื่องลูกว่าจะทำอย่างไร โดยฝ่ายตนยินดีที่จะรับเลี้ยง ซึ่งแม่ของฝ่ายหญิงยื่นขอเสนอจะส่งเสียเงินทองเป็นรายเดือน และไม่อยากให้ตัดขาดความเป็นแม่ลูกที่จะได้เจอหน้ากัน ซึ่งก็เป็นไปด้วยดี
“ผมเอาลูกมาเลี้ยง เพราะผู้ใหญ่ตกลงกันแล้วว่า ผมฝ่ายชายมีอายุและวุฒิภาวะมากกว่าฝ่ายหญิง น่าจะดูแลลูกได้มากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าแม่ทิ้งลูก แม่ไม่ผิด ไม่อยากให้เข้าใจอย่างนั้น เราไม่ได้เกลียดกัน แค่ไม่ได้เป็นสามี-ภรรยากัน แต่จะคุยกันเฉพาะเรื่องลูก ทำหน้าที่พ่อและแม่ให้ดีที่สุด ซึ่งวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ผมจะเป็นคนไปรับลูกที่โรงเรียน ส่วนอังคาร และพฤหัสฯ ตายายจะไปรับ แล้วค่อยมาส่งที่บ้าน จะมีวันเสาร์วันเดียวที่ลูกไปนอนบ้านตายาย” คุณพ่อวัยใสรายนี้ ระบุ
นายเฉลิมเกียรติ เผยอีกว่า ขณะนี้ตนเรียนต่อจบอนุปริญญา ทางด้านช่างกลเรียบร้อยแล้ว โดยครอบครัวของตนเปิดร้านขายของชำ รายได้ก็มาจากการขายของ และเก็บค่าเช่าบ้านเล็กๆน้อย ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนของลูกชาย ขณะนี้ตนอาสารับผิดชอบทั้งหมด อาจจะมีพี่สาวของตนให้หยิบยืมมาหมุนเวียนใช้บ้างในบางครั้ง และทุกครั้งที่ตนอยู่กับลูก จะเป็นได้ทั้งพ่อ เพื่อน และพี่ชาย ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ได้ขาดอะไรไปแม้แต่น้อย ซึ่งพ่อของตนเสียนานแล้ว แต่แม่ที่ขณะนี้อายุ 63 ปี จะสอนการทำหน้าที่พ่อควรทำอย่างไร เพราะบทเรียนจากความผิดพลาด จะกลายเป็นประสบการณ์ที่สอนการใช้ชีวิต ทำให้ตนมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น ตัดสินใจรอบคอบมากว่าเดิม คิดถึงลูกและอนาคตข้างหน้า
ขอบคุณภาพ : Chaloemkiad Thipruecha
ที่มาจาก เดลินิวส์