สายสะดือลูกน้อย
สายสะดือ หรือ สายรก นับเป็นสายใยรักระหว่างแม่ลูกสายสะดือ เป็นสัญลักษณ์แทนความรักความผูกพันธ์ระหว่างแม่กับลูก นับตั้งแต่ลูกน้อยยังเป้นตัวอ่อนอยู่ในครรภ์ สายสะดือนั้นทำหน้าที่ส่งผ่านออกซิเจนให้ลูกน้อย รวมถึงสารอาหารที่สำคัญไปเลี้ยงส่วนต่างๆ และพัฒนาอวัยวะที่สำคัญตามอายุครรภ์ให้สมบูรณ์และคลอดออกมา หน้าที่สำคัญของสายสะดือจะสิ้นสุดลง ในวินาทีที่สูติแพทย์ ทำการตัดสายสะดือ นั่นเอง
ความเชื่อเรื่องสายสะดือลูกน้อยตั้งแต่สมัยโบราณ
ความเชื่อเรื่องสายสะดือตั้งแต่สมัยโบราณ มีมากมายตามถิ่นฐานที่ตั้ง และภูมิลำเนาของคนแต่ละท้องที่ แต่มีส่วนคล้ายคลึงกันคือ สายรกสายสะดือเป็นของของมงคล นำมาเก็บไว้ ติดตัวไว้จะดี อีกทั้งยังเป็นยารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ด้วย เมื่อเจ็บป่วย ผู้เฒ่าจะนำสายสะดือตากแห้งมาฝนเป็นยา คือนำสะดือมาแช่น้ำให้เจ้าของสะดือดื่มกิน จะหายจากการเจ็บป่วย แต่ปัจจุบัน ความเชื่อดังกล่าว ได้จางหายไป เพราะแพทย์แผนปัจจุบันไม่แนะนำเกรงว่า จะมีเชื้อโรคปนเปื้อนมากับสะดือตากแห้ง ปัจจุบันคุณแม่หันมาเก็บสายสะดือไว้ให้ลูกเพื่อเป็นสิริมงคล หรือเป็นของขวัญสุดพิเศษเมื่อลูกเติบใหญ่ mamaexpert นำวิธีเก็บรักษาสายสะดือของลูกมาฝาก คุณแม่คนไทยอาจได้เฉพาะสายสะดือในส่วนที่ติดมากับลูกเท่านั้น ส่วนคุณแม่ชาวต่างชาติ นิยมขอจากโรงพยาบาลมาทั้งหมด รวมถึงรกด้วย แม่ๆมาดูวิธีกันค่ะ
วิธีเก็บรักษาสายสะดือของลูก
1.คุณพ่อคุณแม่ที่ได้สายสะดือมาทั้งหมด รวมถึงรก ให้ทำในวันแรก โดยคุณพ่อจะสะดวกกว่า เพราะคุณแม่ปวดแผล หรือหากวุ่นๆ อยู่กับการดูแลลูกให้แช่แข็งไว้ก่อนค่ะ หากสะดวกทำเลย ให้นำมาล้างน้ำให้สะอาด
2. เลือกตัดเอาเฉพาะส่วนที่ต้องการเก็บ มาตัดในขนาดที่ต้องการ หากต้องการได้รูปแบบพิเศษ ก็สามารถทำได้ ตามรูป
3.นำสายสะดือไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาเก็บใส่กล่องกันความชื้น ไว้มอบให้กับลูกรักในวันที่เขาเติบโต
กรณีคุณแม่คนไทย ส่วนมากแล้ว ไม่ได้ขอหรือนำรกกลับบ้านด้วย จะได้เฉพาะส่วนที่ติดมากับเจ้าตัวน้อย ขนาดความยาวไม่เกิน 2 นิ้ว หากดูแลสะดือลูกไม่ดี อาจติดเชื้อเน่า และไม่เหลือสายสะดือให้เก็บเลย วันนี้เรามาดูวิธีเก็บรักษาสายสะดือลูกแบบฉบับคุณแม่คนไทยกันค่ะ
วิธีเก็บรักษาสายสะดือลูกแบบฉบับคุณแม่คนไทย
1. หลังจากที่ทารกคลอดออกจากท้องแม่แล้ว 2-3 นาที คุณหมอจะทำการใส่ที่หนีบสายสะดือเพื่อป้องกันเลือดไหลผ่าน และตัดสายสะดือให้เหลือประมาณ 2 นิ้ว ครั้งแรกพยาบาลห้องคลอด จะเช็ดทำความสะอาดก้วย น้ำยาฆ่าเชื้อ และ แอลกอฮอล์ จากนั้นเมื่อส่งมอบให้คุณแม่แล้ว คุณแม่ต้องดูแลสะดือลูกรักต่ออย่างถูกต้องแล้ว
2. หลังจากสายสะดือถูกตัด วันที่2 เป้นต้นไป สายสะดือจะเริ่มเหี่ยว แห้งลงในส่วนปลายจะแห้งเร็ว ส่วนโคนสะดือกว่าจะแห้งประมาณ 7-14 วัน ในระหว่างนี้เป็นหน้าที่ของคุณแม่ที่ต้องเฝ้าระวัง ไม่ให้สะดือลูกติดเชื้อ
3 .ก่อนกลับบ้านบางโรงพยาบาลอาจนำที่หนีบสะดือออกให้ กรณียังไม่ให้ดี พยาบาลจะให้หนีบไว้ก่อน
4.คุณแม่ดูแลสะดือลูกตามคำแนะนำของพยาบาลเด็กอย่างเคร่งครัด หลังวันที่5 ต้องหมั่นสังเกตสะดือ เพราะบางครั้งสะดือลูกหลุดง่ายอาจหลุดติดไปกับแพมเพิส หรือหลุดหายระหว่างอาบน้ำได้
5. เมื่อสะดือหลุดแล้ว อาจมีที่หนีบ หรือไม่มีที่หนีบ ให้นำไปตากให้แห้ง จึงนำมาเก็บใส่กล่องกันความชื้น เพื่อเป็นศิริมงคล หรือเก็บไว้เป็นของขวัญสุดพิเศษสำหรับลูกคุณค่ะ
ความรักความผูกพันสุดพิเศษนี้ เกิดขึ้นเฉพาะเรา กับลูก เท่านั้น mamaexpert เป็นกำลังใจให้กับคุณแม่ทุกบ้าน ในการเลี้ยงดูลูกรักให้เป็นเด็กสุขภาพดี สมองดี และอารมณ์ดี แล้วพบกันในโอกาสดีเช่นๆนี้ค่ะ
บทความแนะนำเพิ่มเติม
1. สะดือจุ่น ในเด็กรักษาให้หายได้อย่างไร
2. ตัดสายสะดือหลังคลอดช้าลงส่งผลดีต่อทารกอย่างไร
3. รีวิวการดูแลสะดือเด็กแรกเกิดที่ถูกวิธี เพื่อป้องกันสะดือติดเชื้อในเด็ก
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team