เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 17 ม.ค. ศาลเมืองละฮอร์ ประเทศปากีสถาน ตัดสินประหารชีวิตนางเปอร์วีน บิบี ผู้สังหารลูกสาวตนเองด้วยข้ออ้างรักษาเกียรติของตระกูล ด้วยการราดน้ำมันก๊าดแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็นเมื่อเดือนมิ.ย.2559 เป็นคดีสะเทือนขวัญไปทั่วโลก และปลุกกระแสให้คนในสังคมเรียกร้องให้รัฐออกกฎหมายป้องกัน
เหยื่อในคดีนี้ชื่อน.ส.ซีนัต บิบี อายุ 16 ปี ถูกแม่ลงมือทำร้ายจนถึงแก่ความตาย หลังจากหญิงสาวฝืนคำสั่งครอบครัวไปแต่งงานกับหนุ่มคนรักที่เลือกเอง ชื่อนายฮาซาน ข่าน อายุ 20 ปี ทำอาชีพซ่อมจักรยานยนต์ ครอบครัวไม่ยอมรับเพราะฝ่ายชายเป็นชาวปัชตุน ชนกลุ่มน้อยในปากีสถาน ส่วนฝ่ายหญิงเป็นชาวปันจาบ แม่จึงลวงลูกสาวกลับมาบ้านและลงมือ หญิงสาวถูกจับมัดบนเตียง ราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผา ผลชันสูตรระบุว่า หญิงสาวถูกทารุณและถูกรัดคอ ก่อนถูกไฟเผาคลอกร่างกาย
คดีนี้อัยการฟ้องนางเปอร์วีนในข้อหาก่อการร้าย แทนที่จะเป็นข้อหาสังหารด้วยข้ออ้างรักษาเกียรติ เนื่องจากแม่ของเหยื่อใช้น้ำมันก๊าดในการก่อเหตุ
นอกจากนี้นางเปอร์วีนยังต้องโทษจำคุก 14 ปี และถูกปรับอีกราว 1 ล้านรูปี หรือราว 325,500 บาทในข้อหาฆาตกรรม ส่วนนายโมฮัมหมัด อานี ลูกชาย ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานมีส่วนร่วมในการฆาตกรรม ขณะที่ลูกเขยของนางบิบีที่แต่งงานกับลูกสาวอีกคน พ้นข้อกล่าวหา
สำหรับปากีสถานเป็นประเทศที่เกิดคดีฆ่าเพื่อรักษาหน้าตาของตระกูล อย่างสะเทือนขวัญหลายครั้ง เพราะกฎหมายเดิมระบุว่า ผู้ก่อเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จะรอดพ้นการดำเนินคดีได้ หากครอบครัวไม่เอาเรื่อง กระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เกิดคดีสังหารน.ส.กันดีล บาลอช ดาวดังในโลกโซเชียล โดยน้ำมือของพี่ชาย อ้างว่าน้องสาวทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย คดีนี้จุดกระแสให้รัฐบาลเร่งปฏิรูปกฎหมาย จนสภาผ่านการแก้ไขกฎหมาย ให้ยกเลิกการอภัยโทษให้ผู้ลงมือสังหาร อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ยังคงมีช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ก่อเหตุลอยนวลได้