เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สังคมให้ความสนใจ หลังมีคลิปการทำอนาจารเด็กหญิงชั้น ป.6 ของชายสูงอายุ โดยอ้างว่าเป็นการรักษาโรคที่ตนป่วยแบบตำราจีน ไม่ได้มีเจตนาทำอนาจาร หรือล่วงละเมิดเด็กหญิงคนดังกล่าว รายละเอียดเพิ่มเติมเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลยค่ะ
วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (30 มิถุนายน 2562 )ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 39 วินาที บนโลกออนไลน์เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ชายสูงอายุกำลังกอดจูบลูบคลำเด็กหญิงชั้น ป.6 โดยชายคนนี้มีลักษณะคล้ายผู้นำท้องถิ่นแห่งหนึ่งใน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีการแแชร์คลิปออกไปเป็นวงกว้าง และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งนำตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป
ภายหลังทราบว่าเด็กที่ถูกกระทำอนาจารคือ ด.ญ.พิมพ์ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 อาศัยอยู่กับยาย ถูกชายสูงอายุในคลิปกระทำอนาจาร ซึ่งอ้างว่าเป็นการรักษาอาการป่วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบของตนตามวิธีของหมอจีน ไม่ได้ล่วงละเมิดเด็กแต่อย่างใด เมื่อเสร็จแล้วก็จะให้เงินเด็กไว้ใช้จ่าย
เมื่อเจ้าหน้าที่จะนำเด็กหญิงไปคุ้มครองที่บ้านพักเด็ก แต่ผู้เป็นยายไม่ยินยอม และทราบภายหลังว่ามีทีมงานของชายที่ก่อเหตุได้มาเคลียร์เรื่องนี้กับยาย และให้ลบคลิปต้นเหตุออกไป ด้านน้องพิมพ์ (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า คนก่อเหตุจะใช้รถเก๋งสีบรอนซ์พาเด็กไปตามที่เปลี่ยวและไม่ค่อยมีคน เคยให้ไปพบที่ อบต. แล้วจะทำการกอดจูบ ลูบคลำ หอมแก้ม จับมือ จับหน้าอก เคยโดนถอดเสื้อผ้า แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เนื่องจากไม่ยินยอม
ทั้งนี้น้องพิมพ์เคยนำเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่สาวที่เรียนอยู่ชั้น ปวช.1 ก็ได้ทราบว่าพี่สาวก็เคยถูกชายคนนี้กระทำอนาจารเช่นเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดได้ถ่ายคลิปขณะถูกอนาจารเก็บไว้ และได้ส่งให้เพื่อน เพราะต้องการคำปรึกษา ระบายความเครียด ไม่อยากโดนแบบนี้อีก แต่ก็ยังกลัวว่าถ้าไม่ทำ ก็จะไม่มีเงินใช้จ่าย ซึ่งเพื่อนได้ส่งคลิปต่อกันไปจนกระจายเป็นวงกว้าง
กรณีนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องเร่งติดตาม เพราะทุกวันนี้มักมีเรื่องลักษณะคล้ายกันนี้ให้เห็นบ่อยขึ้น และมีเคสคนใกล้ตัวก่อเหตุเช่นนี้ก็มี ดังนั้นแล้วการสอดส่องดูแลจากผู้ปกครอง การเป็นที่พึ่งให้กับเด็กเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะหากลูกหลานไว้ใจที่จะคุยกับเรา หรือขอคำปรึกษาก็จะสามารถแก้ปัญหา หรือคอยให้คำแนะนำได้ และที่สำคัญต้องคอยสอนวิธีการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ร้ายๆ ที่จะเกิดขึ้นกับลูกหลานของเรา ด้วยความห่วงใยจาก Mamaexpert
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
ขอบคุณข้อมูลจาก : ข่าวช่องวัน