การทำโทษด้วยการใช้ความรุนแรง ถือเป็นเรื่องที่ยากจะรับได้ อย่างกรณีที่นำมาฝากในวันนี้เป็นอีกครั้งที่สร้างความสะเทือนใจ เพียงเพราะเหตุเล็กน้อย แต่ลงโทษโหดร้าย ทารุณลูกได้อย่างเลือดเย็น รายละเอียดเป็นอย่างไรไปติดตามในข่าวกันเลยค่ะ

วันที่ 2 กรกฎาคม 2562  สำนักข่าวเดอะสตาร์รายงานว่า มีเหตุสะเทือนใจ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันทั่ว เมื่อแม่ชาวฟิลิปปินส์ ทำโทษลูกสาววัย 8 ขวบ ด้วยวิธีสุดโหดจนเป็นแผลฉกรรจ์ ไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้หลายวัน หลังจากครูประจำชั้นของโรงเรียนที่ ด.ญ.แคลร์ (นามสมมุติ) วัย 8 ขวบ ปล่อยนักเรียนกลับบ้านก่อนเวลา เนื่องจากเป็นเทศกาลวันนักบุญยอห์น บัปติสต์ ด.ญ.แคลร์จึงวางกระเป๋าไว้ในห้องเรียน และตั้งใจว่าจะออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน ก่อนค่อยเข้าไปหยิบกระเป๋าและเดินกลับบ้านซึ่งอยู่ใกล้ๆ โรงเรียน แต่เด็กหญิงเล่นเพลินจนภารโรงปิดอาคาร เมื่อเข้าห้องเรียนไม่ได้ ด.ญ.แคลร์จึงตัดสินใจกลับบ้าน

เมื่อแม่เห็นเธอกลับบ้านเร็วกว่าปกติ และไม่เห็นกระเป๋านักเรียน ผู้เป็นแม่คิดว่าลูกสาวไม่ยอมเข้าเรียน จึงสั่งให้ลูกกลับไปเอากระเป๋านักเรียนที่โรงเรียน แต่เธอไม่สามารถนำกระเป๋ากลับมาได้ เพราะภารโรงปิดห้องหมดแล้ว ทำให้แม่ไม่พอใจคว้าสิ่งของปาใส่ลูก จากนั้นเข้าไปในครัวพร้อมโกยถ่านที่ร้อนระอุออกมา และสั่งให้ลูกสาวคุกเข่าลงไปที่ถ่าน จนเป็นแผลฉกรรจ์ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ 

ด้านครูประจำชั้นไม่เห็นเด็กหญิงคนดังกล่าวหลายวัน จึงไปหาที่บ้านแลละพบว่าเด็กหญิงมีแผลอักเสบที่เข่า จึงแจ้งตำรวจและสภาหมู่บ้าน ต่อมาเรียกพ่อแม่ของ ด.ญ.แคลร์ ไปสอบถาม พร้อมสั่งให้ลงชื่อในสัญญาว่าจะหยุดทำร้ายลูกๆ ขณะที่ตำรวจยังไม่เปิดการสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้เป็นแม่ ส่วน ด.ญ.แคลร์ ย้ายไปอยู่ที่บ้านปู่ย่าเป็นการชั่วคราว

สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นความรุนแรงที่ยากจะรับได้ เพราะวิธีการลงโทษทำให้ผู้เป็นลูกได้รับบาดเจ็บ ที่มาจากเหตุเพียงเล็กน้อย อีกทั้งการลงโทษมีหลายวิธี และเด็กสามารถที่จะรับฟัง หรืออธิบายเหตุผลได้ ดังนั้นควรเลี่ยงการลงโทษลูกด้วยการใช้ความรุนแรง ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีการพูดคุยทำความเข้าใจกับลูกเพื่อลดความรุนแรงในครอบครัว และเป็นผลดีต่อสภาพจิตใจของคนทั้งครอบครัว 

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
ขอบคุณภาพ/ข้อมูลจาก : เดอะสตาร์