สารอาหารต่างๆ ที่ลูกควรได้รับในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกอย่างมาก การคัดสรรอาหารที่มีประโยชน์ให้กับลูกจึงเป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องใส่ใจพิเศษ และที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือการเลือกนมที่มีคุณประโยชน์ให้ลูกได้ดื่ม เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่สมวัยมากยิ่งขึ้น มาค่ะ วันนี้ Maexpert ชวนคุณแม่ยุคใหม่ที่ใส่ใจโภชนาการของลูก มาเจาะลึกสารอาหารสำคัญที่ลูกแต่ละช่วงวัยควรได้รับ พร้อมทั้งมาเช็กกันค่ะว่านมชนิดไหนดี และเหมาะเป็นนมแก้วโปรดของลูก
สารอาหารสำคัญที่ลูกแต่ละช่วงวัยควรได้รับ
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าสารอาหารมีความสำคัญอย่างมากต่อการเจริญเติบโตของลูก ซึ่งสารอาหารสำคัญที่ควรได้รับในแต่ละช่วงวัยมีดังนี้
- แรกเกิด- 6 เดือน สารอาหารที่ลูกได้รับนั้น จะเป็นนมแม่ เพราะนมแม่มีสารอาหารที่หลากหลาย เช่น แอนติบอดี โปรตีนต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางอาหารของทารกอีกด้วย(1) เรียกได้ว่าเพียงแค่ดื่มนมแม่ก็ได้รับสารอาหารครบถ้วน
- 6 เดือนขึ้นไป เป็นวัยที่เริ่มรับประทานอาหารควบคู่กับการดื่มนม โดยเริ่มจากรับประทานอาหาร 1 มื้อต่อวัน แต่อาหารต้องเป็นอาหารบดละเอียด และคุณแม่สามารถเพิ่มผัก ผลไม้ รวมทั้งเนื้อสัตว์ หรือตับบดให้ลูกรับประทานได้
- 7 เดือน ยังคงให้ดื่มนมควบคู่กับการรับประทานอาหาร 1 มื้อต่อวัน แต่วัยนี้เริ่มมีฟันขึ้น เป็นช่วงที่ฝึกการเคี้ยวกลืน อาหารยังต้องบด แต่มีความหยาบขึ้นหรือละเอียดน้อยลง สารอาหารต้องครบครันด้วยอาหารหลัก 5 หมู่
- 8-9 เดือน ดื่มนมและเริ่มให้อาหาร 2 มื้อต่อวัน อาหารเริ่มหยาบขึ้น เช่น ข้าวสวยนิ่มๆ กล้วยบดหยาบๆ เป็นต้น
- 10-12 เดือน ดื่มนมและรับประทานอาหาร 3 มื้อต่อวัน อาหารยังคงเพิ่มเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ครบ 5 หมู่ มีลักษณะหยาบขึ้น แต่ยังเป็นชิ้นเล็กๆ
- 1 ปีขึ้นไป ดื่มนมและรับประทานอาหารได้ 3 มื้อต่อวัน รับประทานอาหารคล้ายกับผู้ใหญ่มากขึ้น แต่รสไม่จัด และต้องได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่
จะเห็นได้ว่าสารอาหารของเด็กแต่ละช่วงวัย หลักๆ ก็คือสารอาหารหลัก 5 หมู่ ซึ่งได้แก่ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามินและแร่ธาตุ อีกทั้งยังเสริมด้วยการดื่มนม ว้าว!!! ครบครันเลยใช่ไหมคะ คุณแม่อาจยังสงสัยว่าทำไมต้องให้ลูกดื่มนม ในเมื่อลูกก็รับประทานอาหารได้ครบ 5 หมู่แล้ว อ๊ะ!!! คุณแม่อาจลืมไปว่าอาหารครบ 5 หมู่ก็จริง แต่บางครั้งปริมาณสารอาหารบางอย่างอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูก จำเป็นต้องเสริมนมเข้าไปด้วย
ดังนั้นการเลือกนมที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกายและสมองของลูกจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิถีพิถันเลือกให้ดีแบบสุดๆ แล้วนมแบบไหนที่ดีกับลูก มาค่ะ มาเปรียบเทียบสารอาหารในนมแต่ละชนิด เพื่อเลือกนมแก้วโปรดให้กับลูกกันค่ะ
เปรียบเทียบสารอาหารในนมทั้ง 4 ชนิด เพื่อนมแก้วโปรดของลูก
ปัจจุบันนมในท้องตลาดที่กำลังได้รับความสนใจมีทั้งนมแพะ นมวัว นมถั่วเหลือง และนมอัลมอนด์ ซึ่งเราจะเปรียบเทียบสารอาหารของนมทั้ง 4 ชนิด โดยใช้สารอาหารสำคัญที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาสมองและร่างกายในการเปรียบเทียบ ตามนี้ค่ะ
- โปรตีน ช่วยในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างสารภูมิคุ้มกัน และเป็นส่วนสำคัญในทุกๆ เซลล์ของร่างกาย
- ใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
- โอเมก้า 3 6 9 ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง
- ดีเอชเอ และ เออาร์เอ ช่วยพัฒนาสมองและการมองเห็น
- วิตามิน B12 ช่วยให้ระบบประสาทและสมองทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง
- แคลเซียม ช่วยในการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
จากตารางจะเห็นได้ว่านมแพะกับนมวัวนั้นมีสารอาหารครบทุกตัว จึงเหมาะที่จะให้ลูกดื่มเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง แต่!!! ลึกๆ แล้ว นมทั้ง 2 ชนิดนี้ มีความแตกต่างกันค่ะ ซึ่งต่างกันในเรื่องของโปรตีนและใยอาหาร ตามนี้ค่ะ
- แพะมีระบบการสร้างน้ำนมแบบเดียวกับคน เรียกว่า “อะโพไครน์” ซึ่งแตกต่างจากนมวัว นมแพะจึงมีสารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณที่สูงอย่าง Bioactive Component (ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์) เช่น นิวคลีโอไทด์ ทอรีน โพลีเอมีนส์ และโกรทแฟคเตอร์ ช่วยเสริมสร้างสมอง สายตา ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย รวมทั้งมีภูมิคุ้มกันที่ดี
- โปรตีนในนมแพะเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย เพราะมีสัดส่วนของโปรตีนย่อยง่าย (เบต้าเคซีน) สูงกว่านมวัวถึง 2 เท่า(2) และมีโปรตีนย่อยยาก (แอลฟ่า เอสวัน เคซีน) น้อยกว่านมวัว 8 เท่า(2) จึงทำให้เด็กที่ดื่มนมแพะไม่มีปัญหาเรื่องการย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออาการไม่สบายท้องต่างๆ
- นมแพะมีโปรตีน CPP (Casein Phosphopeptides) มากกว่านมวัวถึง 50%(2) ซึ่งโปรตีน CPP จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุสำคัญต่างๆ ได้แก่ แคลเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และแมกนีเซียม เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตและสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- นมแพะมีโปรตีนก่อแพ้หรือเบต้าแลคโตกลอบบูลิน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีขนาดใหญ่ ร่างกายย่อยได้ยาก จึงตกค้างในลำไส้ก่อให้เกิดการแพ้ได้ และในนมแพะนั้นมีโปรตีนก่อแพ้ในปริมาณที่น้อยกว่านมวัวถึง 23%(3) ทำให้เด็กที่ดื่มนมแพะมีโอกาสแพ้ได้น้อย
- นมแพะมีพรีไบโอติกหรือใยอาหาร 2 ชนิด ได้แก่ อินนูลิน และโอลิโกฟรุคโตส จึงทำให้ระบบทางเดินอาหารดี ป้องกันการติดเชื้อ การอักเสบในทางเดินอาหาร อีกทั้งช่วยลดปัญหาท้องผูกของเด็กๆ และที่สำคัญในนมแพะมีใยอาหารมากกว่านมวัว 4-5 เท่า (250-300 มิลลิกรัมต่อลิตร)(4)
อาหารในแต่ละช่วงวัยของลูกนั้นขาดไม่ได้เลยคือสารอาหารหลัก 5 หมู่ รวมทั้งสารอาหารจากนม เพื่อเพิ่มเติมสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทั้งร่างกายและสมองให้ครบถ้วนมากขึ้น นมแก้วโปรดของลูกจึงต้องมีคุณค่าทางสารอาหารที่ดี เพียงพอต่อการพัฒนาสมองและร่างกายที่สุด และหากจะเลือกนมแก้วโปรดของลูก Mamexpert ขอแนะนำนมแพะไว้เป็นที่หนึ่งในใจของคุณแม่และลูกน้อยนะคะ แล้วกลับมาพบกับสาระดีๆ เกี่ยวกับโภชนาการของลูกรักในโอกาสหน้าค่ะ
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team
อ้างอิง
- ดร.ผกากรอง วนไพศาล.น้ำนมแม่ ประโยชน์อเนกอนันต์.เข้าถึงได้จาก https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/338/น้ำนมแม่/.[ค้นคว้าเมื่อ 20 กันยายน 2562]
- โปรตีนในนมแพะ.เข้าถึงได้จาก https://www.dgsmartmom.com/product-information-cpp-protein/.[ค้นคว้าเมื่อ 21 กันยายน 2562]
- มารู้จักนมแพะ.เข้าถึงได้จาก https://www.dgsmartmom.com/about-the-goat-milk/.[ค้นคว้าเมื่อ 21 กันยายน 2562]
- Prebiotic ในนมแพะ.เข้าถึงได้จาก https://www.dgsmartmom.com/prebiotic-goat-milk/.[ค้นคว้าเมื่อ 21 กันยายน 2562]
- ดร.ภญ. ธฤตา กิติศรีปัญญา.ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ผลิตภัณฑ์นมจากพืชกับการใช้บริโภคทดแทนนมวัว.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/LG4Q9.[ค้นคว้าเมื่อ 21 กันยายน 2562]
- ผศ.ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล.นมอัลมอนด์กับประโยชน์ต่อสุขภาพ.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/KV2GA.[ค้นคว้าเมื่อ 21 กันยายน 2562]
- องค์ความรู้ด้านอาหารและโภชนาการสำหรับทุกช่วงวัย.เข้าถึงได้จาก http://www.inmu.mahidol.ac.th/th/freebook_01.pdf.[ค้นคว้าเมื่อ 20 กันยายน 2562]
- Plant-based milk vs. cow's milk: What's the difference?.เข้าถึงได้จาก https://www.nbcnews.com/better/health/plant-based-milk-vs-cow-s-milk-what-s-difference-ncna845271#anchor-Almondmilk.[ค้นคว้าเมื่อ 21 กันยายน 2562]