เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก
.
.
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก สำคัญสำหรับคุณแม่ทุกท่าน ยามเดินทางไปโรงพยาบาล มักจะเห็นเครื่องมือที่คุณหมอไว้ฟังเสียงหัวใจ เราเรียกว่า เครื่องฟังเสียงหัวใจ บุคคลทั่วไปสามารถหาซื้อได้ เพื่อเอาไว้ใช้ฟังหัวใจและการเจริญเติบโตของทารกได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงป้องกันอันตรายจากการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ เพราะหากหัวใจของลูกเต้นผิดจังหวะ คุณแม่ก็จะได้ไปพบแพทย์ได้ทันนั่นเอง
รู้ไว้ไม่เสียหลายกับข้อดีของเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก
สำหรับคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ที่อยากทำความรู้จักเจ้าทารกน้อยในครรภ์ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่และลูกได้ เครื่องมือดังกล่าวใช้ฟังจังหวะและอัตราการเต้นของหัวใจลูกน้อย ความสมบูรณ์แข็งแรงในร่างกาย รวมไปถึงการเจริญเติบโตของครรภ์
ลักษณะการใช้งานของเครื่อง
เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 10 – 11 สัปดาห์ หรือราวๆ 2 เดือนครึ่งถึง 3 เดือน หัวใจของทารกจะมีโครงสร้างที่สมบูรณ์ และจะเต้นอยู่ที่ 110 ครั้ง/นาที ถัดไปอีก 2 สัปดาห์ หัวใจของเด็กจะเต้นอยู่ที่ 150 – 170 ครั้ง/นาที เมื่อเข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ 20 หรือราว 5 เดือน หัวใจของเด็กจะเต้นช้าลงเหลือ 140 ครั้ง/นาที สำหรับการใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ในขั้นพื้นฐาน ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้ยินเสียงหัวใจชัดเจน น้ำหนักเบา คล้องคอสบาย มีขนาดท่อฟังเสียงพอดี เพราะจะทำให้ได้ยินเสียงหัวใจได้ชัด อุปกรณ์ในเครื่องประกอบด้วย
- หูฟัง ใช้สำหรับขยายเสียงภายใน สามารถฟังเสียงหัวใจเต้นของทารกในครรภ์ในอายุ 18-20 สัปดาห์
- พินาร์ด ฮอร์น ทำจากไม้หรือโลหะ ลักษณะคล้ายเครื่องดนตรีทรัมเป็ต จะส่งสัญญาณเสียงจากหัวใจของทารก ไปยังหูของผู้ฟัง และช่วยประเมินอัตราการเต้นของหัวใจได้ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้งานระหว่างการคลอด เพื่อค้นหาภาวะหัวใจล้มเหลว
- ดอปเปลอร์ ใช้ฟังเสียงหัวใจในสัปดาห์ที่ 13 -28 ใช้คลื่นเสียงเพื่อตรวจอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อแปลเป็นเสียง ควรใช้สำหรับคุณหมอเท่านั้น เนื่องจากการอัลตราซาวด์ อาจทำให้เกิดเนื้อเยื่อร้อนจนเป็นอันตรายได้
- การตรวจอัตราการเต้นของหัวใจจากอัลตราซาวด์ จะเป็นการตรวจเฉพาะทางโดยคุณหมอ แสดงผลจากจอภาพ เพื่อดูความสมบูรณ์แข็งแรงและการเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประเมินลักษณะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติอันมีสาเหตุมาจาก คุณแม่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
วิธีใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก คุณแม่และคุณพ่อสามารถใช้ฟังได้ที่บ้าน โดยการหาสถานที่ที่เงียบที่สุด นอนหรือนั่งราบหรือนั่งเอนบนโซฟาในท่าที่สบายที่สุด นำเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกชนิดหูฟัง พินาร์ด ฮอร์น หยิบปลายแตรวางไว้หน้าท้อง วางรอบ ๆ จนกว่าได้ยินเสียงของหัวใจ หากตำแหน่งทารกหรือตำแหน่งรกอยู่ห่างกัน อาจไม่ได้ยินเสียงหัวใจได้
ขอแนะนำ 5 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่ดีที่สุด
1.Jumper Angelsounds รุ่น JDP-100S
เป็นรุ่นที่ขายดีและใช้อย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับผู้ตั้งครรภ์อายุ 9 -12 สัปดาห์ สามารถใช้ได้ที่บ้าน ทำงานด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ ใช้งานง่าย ผ่านการรับรองมาตรฐาน สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นโทรศัพท์ได้ สามารถบันทึกเสียงหัวใจทารกผ่านเครื่องบันทึกเสียงหรือคอมพิวเตอร์ วิธีการใช้งานนั้น เพียงแค่บีบเจลหรือออยล์ลงบนตัวรับสัญญาณคลื่นอัลตราซาวด์ ค่อย ๆ เคลื่อนหาตำแหน่งของหัวใจเด็กทารกในครรภ์ หากไม่ได้ยินหรือได้ยินไม่ชัด ให้ขยับไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ยินการเต้นของหัวใจชัดเจน
2.Jumper Angelsounds รุ่น JDP-100S4
เป็นรุ่นที่มีจอ LCD บอกอัตราการเต้นของหัวใจพร้อมลำโพงในตัว มีโหมดเปิดเพลงบรรเลงในตัวเครื่อง 5 เพลง รวมไปถึงมีโหมดบันทึกเสียงเต้นของหัวใจพร้อมเปิดฟังได้ในตัวเครื่องถึง 4 โหมดด้วยกัน คือ ฟังเสียงของหัวใจ เพลงบรรเลง ฟังเสียงหัวใจที่อัดไว้ และบันทึกเสียงของหัวใจ เครื่องนี้ใช้ถ่านขนาด AAA 4 ก้อนและเริ่มใช้ในอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ถือว่าสะดวกสบายและง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก
3.Banglijian
สามารถใช้ได้กับหญิงตั้งครรภ์อายุมากกว่า 16 สัปดาห์ มีการแสดงผลแบบไดนามิก หัววัดขนาดใหญ่ เสียงชัดเจนและใช้พลังงานต่ำ ตัวเครื่องระบายได้ดีในที่ร่ม รวมไปถึงมีคู่มือการใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษอีกด้วย
4.FDA รุ่น YM-2T9
มีหน้าจอ OLED แสดงผลเป็นกราฟแบบ Real Time ไม่เป็นอันตรายต่อทารก บอกค่าเฉลี่ยการเต้นของหัวใจ ใช้แบตเตอรีขนาด AA 2 ก้อน เหมาะสำหรับอายุครรภ์ 13 – 15 สัปดาห์ขึ้นไป
5.Fetal Doppler รุ่น JDP-100A
การทำงานของเครื่องนี้ อาศัยคลื่นอัลตราโซนิกความถี่ต่ำที่ 3 Mhz เท่านั้น มีขอ LCD บอกอัตราการเต้นของหัวใจและมีลำโพงในตัว มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับพกไปทุกที่ทุกเวลา สามารถตรวจครรภ์ได้ตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไปวิธีการใช้ ฟังเสียงจากลำโพงที่มากับตัวเครื่อง อัตราการเต้นของหัวใจจะแสดงผ่านหน้าจอ หากไม่มีการใช้งานภายใน 1 นาที หย้าจอเครื่องจะดับอัตโนมัติ
สรุปแล้วการใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก มีความสำคัญต่อการเต้นหัวใจทารกพอสมควร หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใด มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะอำนวยความสะดวก สามารถหาซื้อได้หลากหลายราคาตามกำลังไหว ปัจจุบันบางยี่ห้อมีราคาไม่แพงกว่าที่คิด มีคู่มือหลากหลายภาษาและมีคลิปสอนวิธีการใช้ ยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่ใช้งานง่าย ซึ่งจะช่วยสังเกตการเต้นของหัวใจทารกได้ดี และป้องกันการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ เพื่อให้ทารกน้อยเกิดมาท่ามกลางสังคมที่มีความสุข ปราศจากโรคภัยแทรกซ้อนต่อไป
บทความแนะนำเพิ่มเติม
1. คนท้องติดโควิด ทำอย่างไรดี ยาอะไรกินได้และกินไม่ได้บ้าง
2. การตรวจความผิดปกติหัวใจของทารกในครรภ์ ที่แม่ตั้งครรภ์ควรรู้!!
3. วิธีรักษาเส้นเลือดขอด อาการผิดปกติที่มักจะพบได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team