คันรูทวาร

อาการคันที่รูทวารหรือ คันรูทวาร นับว่าเป็นอาการที่หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติก็ได้ เพราะคุณอาจจะดูแลรักษาความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือด้วยสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของคุณเองก็เช่นกัน ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ คันทวารหนัก อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีหรือเป็นปกติแล้วก็ได้ ดังนั้นคุณจะต้องสังเกตอาการที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร ดีหรือร้ายแรงหรือไม่ และจะต้องหาทางป้องกันอย่างไรบ้าง มาติดตามกันได้เลย

สาเหตุของอาการ คันรูทวาร

สาเหตุของอาการ คันทวารหนัก ฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วอาจเป็นสาเหตุของอาการอีกมากมายเลย ที่เป็นผลเสียต่อร่างกายของคุณก็ได้ ก่อนอื่นเลย เราจะต้องมาหาสาเหตุของอาการดังกล่าวก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง

• เกิดจากทวารหนักอับชื้น เช็ดไม่แห้งก่อนออกจากห้องน้ำ หรือด้วยความที่คุณอาจจะมีน้ำหนักตัวมากเกินไป จนเกิดเป็นความอับชื้นตลอดเวลา
• คันทวารหนัก เนื่องจากติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
• เกิดการระคายเคืองจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ทำให้เกิดอาการ คันรูทวาร เช่น การรับประทานนม หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน สำหรับคนที่แพ้เท่านั้น
• ผลข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือสารเคมีบางตัว
• อาการข้างเคียงของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรืออาจจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
• การระคายเคืองจากสารเคมี เช่น น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือผงซักฟอกต่าง ๆ
• โรคผิวหนัง ภูมิแพ้ ฝี หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับทวารหนัก

อาการคันแบบไหนไม่ควรนิ่งนอนใจ

อาการ คันทวารหนัก มีหลากหลายสาเหตุ แต่แบบไหนกันที่เมื่อเกิดอาการแล้ว เราจะนิ่งนอนใจไม่ได้ อย่างแรกเลยก็คือ อาการคันจากภายใน ที่มาพร้อมกับการมีภาวะอุจจาระซึม หรืออาการที่มาจากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเม็ดเลือดขาว อาการคันที่มาจากโรคเรื้อรัง เบาหวาน ดีซ่าน หากเป็นอาการคันที่มาพร้อมกับสิ่งแปลกปลอมหรือผลข้างเคียงจากการคัน บอกเลยว่าเป็นอาการที่ร้ายแรงและคุณอาจจะต้องหาช่องทางในการรักษาให้เร็วที่สุดเลย เพราะหากคุณนิ่งนอนใจ ไม่รักษาหรือหาทางแก้ไข บอกได้เลยว่า อาการเหล่านี้อาจร้ายแรงเลยทีเดียว เช่น หากเป็นอาการจากโรคภัยต่าง ๆ แน่นอนว่าจะต้องมีผลที่ตามมากับคุณเช่นกัน

วิธีบรรเทาอาการคันบริเวณรูทวาร

คันทวารหนัก เป็นอาการที่ใครก็เป็นได้ หากไม่ใช่อาการที่ร้ายแรง ดังนั้น คุณทั้งหลายที่เป็นอาการนี้อยู่ก็อาจจะต้องหาวิธีการรักษาและบรรเทาอาการให้ลดลง เพื่อให้รูทวารของคุณกลับมาเป็นปกติ หากคุณไม่ทำการรักษา บอกได้เลยว่า คุณอาจเจอกับปัญหาด้านสุขภาพอย่างแน่นอน แล้วการรักษา คันรูทวาร มีอะไรบ้าง เรามาดูกันดีกว่า

1.รับประทานยาตามอาการ

หากคุณหาสาเหตุของอาการคันที่เกิดขึ้นได้แล้วนั้น คุณก็จะต้องรับประทานยาตามอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งจะร้ายแรงหรือเป็นอาการแรกเริ่มนั้น เราก็อาจจะต้องให้แพทย์ช่วยดูอีกทีหนึ่ง การรับประทานยาก็อาจจะต้องดูว่า เป็นยาเพื่อการักษาโรคที่แทรกซ้อนหรือไม่ หรือว่าเป็นโรคที่เกี่ยวกับรูทวารโดยตรงเลย

2.การไปพบแพทย์

หากอาการคันหรือมีความผิดปกติของรูทวารอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อย การพบแพทย์คือช่องทางที่ดีที่สุด เพราะคุณเองก็จะได้รับคำแนะนำที่ดีและถูกต้องจากแพทย์อีกด้วย บางครั้ง อาการที่เกิดขึ้นอาจมีจากสาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ได้ หรืออาจจะมาหาสาเหตุใหญ่ที่คุณอาจไม่รู้เลยก็ได้ ดังนั้นการไปพบแพทย์น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า

3.การใช้ยาปฏิชีวนะ  

ในที่นี้อาจจะไม่ใช่การรับประทานยา แต่เป็นการใช้ยาสอดหรือเป็นการฉีดยามากกว่า วิธีการนี้อาจเกิดขึ้นจากอาการที่ค่อนข้างรุนแรงและจะต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง มิฉะนั้นอาการที่เกิดขึ้นอาจจะหายยากด้วยก็ได้

4.การสังเกตอาการ

บางครั้งอาการที่เกิดขึ้น อาจมาจากการคันแบบที่คุณเป็นเพียงแค่ชั่วครั้ง ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ต่อเนื่อง อาจเกิดจากปัญหาใต้ร่มผ้าก็ได้ หรือความอ้วน น้ำหนักตัว ปัญหานี้เราสามารถแก้ไขจากปัจจัยภายนอกได้เลย เช่น การใส่เสื้อผ้าที่สะอาด หรือลดน้ำหนักตัวลงก็ได้เช่นกัน

ป้องกันอาการคันรูทวารได้อย่างไร

คันทวารหนัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็รักษาตามอาการได้เลย แต่หากคุณหรือใครก็ตามไม่ต้องการให้อาการนี้เกิดขึ้น แน่นอนว่าคุณเองก็จะต้องมีแนวทางในการป้องกันที่ดี ซึ่งเป็นแนวทางเบื้องต้นของการรักษา ซึ่งบอกได้เลยว่า การป้องกันอาจจะดูพื้นฐาน เบสิค แต่รับรองได้เลยว่า ได้ผลที่ดีอย่างแน่นอน แล้วเราจะต้องป้องกันอาการที่จะเกิดขึ้นกับรูทวารของเราได้อย่างไรบ้าง เริ่มจาก การใส่เสื้อผ้าที่ไม่อับ ไม่ชื้นจนเกินไป ไม่ทำพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางรูทวาร การซักเสื้อผ้าให้สะอาดและสดใสอยู่เสมอ

การป้องกันหรือบรรเทาอาการ คันรูทวาร ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ถือว่าเป็นการป้องกันทั้งเบื้องต้นและการป้องกันหลังจากเกิดอาการ ดังนั้นเราเองก็อาจจะต้องดูด้วยว่า สาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง แล้วเราจะต้องทำอย่างไรต่อไป แต่หลัก ๆ เลยก็คือ การรักษาความสะอาดร่างกายและรูทวารของเราให้ไม่มีโอกาสที่จะเกิดอาการคันหรือติดเชื้อได้ เป็นต้น ดังนั้นหมั่นดูแลรักษาร่างกายของเราในส่วนที่เป็นมุมอับ ชื้นกันจะดีกว่า เพื่อให้เรามีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงต่อไป

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1.4 วิธีลดอาการคันเหงือก เจ็บเมื่อฟันขึ้น ของลูกรัก

2.คันปากช่องคลอด เกิดจากอะไร อันตรายไหม? แม่ท้องต้องรู้

3.คลิป คันหู!!! หมอตรวจเจอสิ่งน่าขนลุก

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team