นมผงยี่ห้อไหนดี นมแพงใช่นมดีหรือไม่?

07 December 2011
47182 view

นมผงยี่ห้อไหนดี

คุณแม่ทุกคนทราบดีถึงคุณประโยชน์อันมหาศาลของนมแม่  เช่น สะอาดสะดวกประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย มีสารอาหารครบถ้วนที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของลูกน้อยอย่างที่ไม่มีนมผสมชนิดใดทำได้  ย่อยง่าย ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ลูก จากการที่มีโคลอสตรุ้ม ซึ่งเป็นน้ำนมพิเศษที่ธรรมชาติให้มาในช่วง 1- 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด และยังช่วยป้องกันลูกจากปัญหาการแพ้นมวัว ถึงแม้ว่าคุณแม่จะทราบดีถึงประโยชน์ที่ได้จากนมแม่ และต่างก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการเลี้ยงนมแม่ก็ตาม แต่คุณแม่บางคนก็อาจจะพบว่าตนเองไม่สามารถเลี้ยงนมแม่ได้ตลอดเวลาอย่างที่อยากจะทำ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทำให้จำเป็นต้องหานมผสมมาใช้ป้อนแก่ลูก คุณแม่กลุ่มนมผงมักจะไม่มั่นใจและลังเลอยู่เสมอเกี่ยวกับคุณภาพของนมผง วันนี้ Mama Expert นำเรื่องราวเกี่ยวกับนมผง และคำถามยอดฮิต มาบอกเล่าดังนี้ค่ะ

ถ้าลูกไม่ได้กินนมแม่ ควรเลือกนมผงยี่ห้อไหนดี  

คำถามนี้ฟังดูเป็นคำถามง่ายๆ แต่ตอบค่อนข้างยากนะคะ  ในการคำนึงถึงประโยชน์ทางด้านสารอาหารต่างๆแล้ว พอจะตอบได้ว่านมผงสำหรับทารกทุกยี่ห้อที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด จะมีมาตรฐานที่ดีมาก และต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงทางด้านนี้ เช่น องค์การอาหารและยา (FDA) ของแต่ละประเทศ รวมทั้งขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่วางกฏเกณฑ์ไว้อย่างเข้มงวดและสอดคล้องกับข้อมูลทางด้านโภชนาการของทารกในแต่ละวัย จึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้ว่าจะใช้ยี่ห้อไหน ก็จะได้นมที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนเหมาะแก่การเจริญเติบโตของลูกอย่างแน่นอน การเลือกยี้ห้อนม ควรพิจารณาจากสภาพของลูกเป็นหลัก  เช่น

  1. ลูกแพ้นมวัว ในกรณีที่แพ้นมวัว ซึ่งเป็นการแพ้โปรตีนของนมวัว ทำให้เกิดผื่นขึ้นตามหน้าและลำตัว รวมถึงปัญหาท้องอืด ร้องกวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ทางผู้ผลิตก็ไดทำขั้นตอนบางอย่างที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะของโปรตีนในนมวัว เช่นการผ่านขั้นตอน Hydrolysate เพื่อลดปัญหาการย่อยยากและการแพ้โปรตีนในนมวัวอยู่แล้ว ในบางยี่ห้อได้เน้นที่ประเด็นการแพ้นมวัวนี้ จึงใช้ชื่อที่จะสื่อบอกว่าได้ทำขั้นตอนต่างๆเช่น Hydrolysate โปรตีนของนมวัวนี้เป็นพิเศษ เพื่อให้เกิดการแพ้นมวัวน้อยลงกว่านมที่มีใช้กันทั่วไป จึงเรียกเป็น นมที่ทำให้แพ้น้อย สังเกตนมชนิดนี้จะลงท้ายด้วยคำว่า HA 
  2. กรณีที่ลูกมีปัญหาท้องอืด ร้องกวนบ่อยๆ มีแก๊สในท้องเยอะ อึดอัดแน่นท้อง ที่เรียกว่าเป็น ปัญหาจากการย่อยนมที่มีแลคโตสไม่ได้  ซึ่ง แลคโตสคือสารคาร์โบฮัยเดรต หรือเรียกง่ายๆว่าคือน้ำตาลประเภทหนึ่งที่มีเฉพาะในนมแม่และนมวัวและนมจากสัตว์อื่น เช่น นมแพะ ก็ควรพิจารณาใช้นมที่ไม่มีแลคโตส หรือที่เรียกว่า Lactose-free formula ให้แก่ลูก (โดยทางผู้ผลิตจะใช้น้ำตาลชนิดอื่นมาใส่แทนนาตาลแลคโตส ซึ่ง เมื่อผ่านการย่อย ก็จะได้รับสารอาหารต่างๆครบถ้วนเช่นกัน) ซึ่งทั้งปัญหาการแพ้นมวัว และปัญหาการย่อยนมที่มีแลคโตสไม่ได้นั้น อาจจะมีอาการคล้ายคลึงกัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรปรึกษากุมารแพทย์เมื่อพบว่าลูกมีปัญหาดังกล่าว เพราะยังมีทางเลือกอื่นๆอีก
  3. การใช้นมถั่วเหลือง (Soy formula) ซึ่งจะไม่มีโปรตีนจากนมวัว ทำให้เลี่ยงปัญหาการแพ้นมวัว และไม่มีแลคโตส ทำให้ไม่มีปัญหาการย่อยนมที่มีแลคโตสไม่ได้ แต่ในทารกบางรายที่มีปัญหาการแพ้นมวัวค่อนข้างมากพบว่าจะมีประมาณ 30 % ที่จะมีโอกาสแพ้นมถั่วเหลืองได้ด้วย
  4. แพ้นมวัวและ แพ้นมถั่วเหลือง กุมารแพทย์แนะนำให้ใช้นมสูตรพิเศษ (Special formula) อื่นๆที่เหมาะสมกับสภาวะของทารกรายนั้นๆต่อไป

สารพิเศษต่างๆที่เติมลงในนมผงนั้น เช่น ARA  DHA โคลีน แอลฟาแลคตาบูมิน ความเป็นจริงในนมแม่ก็มีมากและเพียงพอ  สารเหล่านี้จะทำให้เด็กมีสติปัญญาดีฉลาดควรจะเลือกอย่างไรดี ในการพยายามทำให้นมผสมที่ใช้เลี้ยงทารกมีคุณสมบัติใกล้เคียงนมแม่มากที่สุดทางบริษัทผู้ผลิตแต่ละบริษัทได้มีการเติมสารต่างๆเพิ่มเข้ามามากขึ้น จากการศึกษาดูส่วนประกอบต่างๆของน้ำนมแม่ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วน้ำนมแม่มีส่วนประกอบต่างๆที่ค่อนข้างซับซ้อน และพบว่ามีสารอาหารชนิดต่างๆมากมายกว่า 200 ชนิดที่พบในน้ำนมแม่ในปริมาณต่างๆกัน ซึ่งยังต้องการการศึกษาวิจัยอีกมากว่าสารต่างๆที่พบในน้ำนมแม่นั้นแต่ละชนิดจะมีบทบาทอย่างไรกับการเจริญเติบโตและการพัฒนาการของทารก หรือเป็นเพียงสารที่ออกมาอยู่ในน้ำนมแม่จากขั้นตอนการสังเคราะห์น้ำนมในเต้านมโดยไม่ได้มีบทบาทที่สำคัญแต่อย่างไร ที่พบว่าหลายบริษัทผู้ผลิตมีการเติมเข้ามาได้แก่กรดไขมันไม่อิ่มตัว  2 ชนิด คือ docosahexaenoic acid (DHA) และ arachidonic acid (ARA) ซึ่งพบได้ในน้ำนมแม่ตามธรรมชาติ และเชื่อว่ามีส่วนเสริมในแง่สายต,การมองเห็นและการเจริญเติบโตของสมอง ซึ่งมีผู้ผลิตนมผสมจากทางประเทศยุโรป  อเมริกาและญี่ปุ่น ได้เริ่มเติมสารเหล่านี้เข้ามาในสูตรนมที่ผลิตสำหรับทารกผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการสำหรับทารกพบว่าสาร DHA และARA นั้นทารกไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง จำเป็นต้องอาศัยรกเป็นตัวนำมาให้ในตอนที่ยังเป็นทารกในครรภ์ และส่วหนึ่งทารกจะได้รับจากการทานน้ำนมแม่ จึงมีการพิจารณาเติมสารทั้ง 2 อย่างนี้ไว้ในนมผสมสำหรับทารกแรกเกิดด้วยเพื่อให้ได้เหมือนในน้ำนมแม่ ทั้งนี้มีการศึกษาดูผลของการเจริญเติบโตและการพัฒนาการของทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนด (ซึ่งจะได้รับสาร DHA และ ARA นี้ผ่านมาทางรก น้อยกว่าทารกที่คลอดครบกำหนด) โดยในทานนมที่มีสารทั้ง 2 นี้เติมเข้ามา พบว่าทารกที่ได้รับนมสูตรพิเศษนี้ความสามารถในด้านการใช้กำลังกล้ามเนื้อ และการใช้สายตาในการแยกแยะสิ่งต่างๆ และความสามารถในการใช้ความคิด ที่อายุ 1 ปีดีกว่าทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนดเช่นกันแต่ได้รับนมสูตรธรรมดาที่ไม่ได้มีการเติมสารทั้งสองตัวนี้ แต่สำหรับการศึกษาที่ทำในทำนองเดียวกันกับทารกแรกเกิดที่คลอดครบกำหนด กลับได้ผลต่างกันออกไป บางรายงานไม่พบว่ามีความแตกต่าง บางรายงานพบว่ามีความแตกต่างกันบ้าง

จึงทำให้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะมีผลอย่างไร  แต่ทางบริษัทผู้ผลิตก็เชื่อว่าการเติมสารเหล่านี้นั้นไม่เกิดผลเสียและน่าจะได้ผลดีต่อทารกมากกว่าการไม่เติม จึงทำให้มีนมผสมสูตรพิเศษต่างๆนี้ออกมาสู่ท้องตลาดกันมากขึ้น ซึ่งในอีกระยะหนึ่งเมื่อมีการใช้นมเหล่านี้มากขึ้นก็น่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างๆสามารถสรุปได้ Mama Expert จะติดตามเรื่องนี้และนำมาบอกเล่าต่อถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอนค่ะ

สรุปแล้วคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมผสม (นมผง) ควรเลือกตามสภาพของลูกเป็นหลัก ส่วนสารอาหารนั้นไม่ค่อยแตกต่าง อย่าหลงเชื่อในคำโฆษณามากจนเกินไป เพราะทำให้สูญเงินไปอย่างไม่จำเป็น หากคุณแม่ไม่มั่นใจควรปรึกษากุมารแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญค่ะ

บทความแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคุณแม่

1. วิธีชงนมเด็กที่ถูกต้อง

2. วิธีเปลี่ยนนมที่ถูกต้องตามช่วงอายุ

3.สูตรนมของลูกแต่ละช่วงวัย

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team