ข้าวเหนียวมะม่วง
เทศกาลเเห่งความอร่อยเริ่มขึ้นแล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงปฎิเสธไม่ได้จริงๆกับความอร่อยเลิศรส หลายๆคนติดใจในรสชาติยากที่หักห้ามห้ามใจ คุณแม่ตั้งครรภ์ก็เช่นเดียวกันค่ะอร่อยจนอยากขอ2 กันเลยทีเดียว กินแล้วก็กังวลเหลือเกินกับปริมาณแครอรี่ที่ได้รับนั้นมันมากเกินความจำเป็น ทำให้อ้วนได้ง่ายๆ ทำอย่างไร คุณแม่ตั้งครรภ์ถึงจะกินข้าวเหนียวมะม่วงอย่างสบายใจ เรามิเทคนิคมาบอกค่ะ
1. คุณแม่ตั้งครรภ์ เลือกที่จะรับประทานมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียวสิคะเรามีตัวอย่างคำนวณแครอรี่ค่ะรับประทานมะม่วงสุกครึ่งลูก (ขนาดกลาง) จะได้พลังงานประมาณ 70 กิโลแคลอรีและข้าวเหนียวมูล 1 ขีด จะให้พลังงาน 280 กิโลแคลอรี เมื่อรวมกันแล้วจะเท่ากับ 350 กิโลแคลอรี
2. เลือกช่วงเวลาในการรับประทานข้าวเหนียวมะม่วงให้เหมาะสมสิคะ มื้อที่เหมาะกับคุณแม่ท้องต้องมื้อกลางวันค่ะ เพราะมื้อกลางวันเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องใช้พลังงานทำกิจกรรมต่างๆ ควรหลีกเลี่ยงการกินมื้อเย็น เนื่องจากมีกิจกรรมที่ต้องทำน้อยกว่าช่วงกลางวัน พลังงานที่ได้รับเข้าไปอาจเผาผลาญและนำไปใช้ไม่หมด เกิดเป็นไขมันสะสมตามร่างกายได้
3. สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์สุขภาพไม่ดีเท่าที่ควร เช่น เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เป็นความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ และมีไขมันในเลือดสูง ต้องระมัดระวังอย่างมากค่ะเพราะข้าวเหนียวมะม่วงเป็นอาหารที่มีทั้งน้ำตาลและไขมันปริมาณที่ค่อนข้างสูง รับประทานไม่เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากเป็นไปได้ลดเป็นเดือนละ 2 ครั้งจะดีมากค่ะ
4. สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์สุขภาพดีไม่มีภาวะแทรกซ้อน สามารถรับประทานข้าวเหนียวมะม่วงได้มากกว่า2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ต้องไม่ลืมว่าข้าวเหนียวมะม่วงให้พลังงานเทียบเท่ากับการกินอาหารมื้อหลัก 1 มื้อเลยทีเดียวหลังรับประทานอย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะคะเดี๋ยวน้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์กระฉูด คุณแม่ตั้งครรภ์อย่าลืมนะคะว่า ตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือนน้ำหนักไม่ควรเกิน 13 กิโลกรัมค่ะ
5. เลือกทานข้าวเหนียวมูลที่ทำจากข้าวเหนียวดำหรือข้าวเหนียวที่มูลด้วยน้ำกะทิที่ผสมสีที่ได้จากธรรมชาติ เช่น ดอกอัญชัน แครอต ขมิ้น และใบเตย เพราะได้วิตามินมากกว่าข้าวเหนียวมูลสีขาวธรรมดา
6. เลือกททานกินมะม่วงสุกจากผลที่แก่จัด และสุกเองตามธรรมชาติจะมีรสชาตดีกว่ามะม่วงบ่มแก๊ส
7. คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีปัญหาแทรกซ้อนเรื่องไตควรงดมะม่วงสุกเนื่องจากมีปริมาณโพแทสเซียมสูง เพื่อสุขภาพนะคะ
หลายคนเข้าใจผิดยกใหญ่ว่าข้าวเหนียวมะม่วงเป็นศัตรูตัวฉกาจของสุขภาพแม่ตั้งครรภ์ คุณทราบหรือไม่คะ อันที่จริงแล้วในกะทิเป็นแหล่งของพลังงานที่ดีแล้ยังมีสารต้านอนุมููลอิสระและมีกรดอะมิโนจำเป็นอีกหลายชนิดด้วย
ข้อดีของข้าวเหนียวมูลก็มีนะ กะทิเป็นตัวช่วยให้ร่างกายสามารถนำวิตามินเอที่มีอยู่ในเนื้อมะม่วงไปใช้ได้ เพราะวิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ต้องอาศัยไขมันเป็นตัวช่วยพาเข้าร่างกายนับเป็นความฉลาดของบรรพบุรุษไทยสมัยก่อนที่สร้างสรรเมนูมะม่วงสุกให้มาคู่กับข้าวเหนียวมูลกลายเป็นอาหารอร่อยและมีประโยชน์ไม่ได้มีโทษต่อร่างกาย หากรับประทานให้ถูกวิธี รู้แล้ว รีบไปซื้อมาทานด่วน!
เรียบเรียงโดย : Mama Expert Editorial Team