วัคซีนบังคับ
วัคซีน มีความจำเป็นมากในการป้องกันโรค เพราะเด็กแรกเกิดไม่มีภูมิต้านทาน เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เพราะฉะนั้นมาตรฐานของเด็กที่คลอดในประเทศไทย จำเป็นต้องได้รับ วัคซีนบังคับ หรือ Expanded Programme for Immunization (EPI ) ตั้งแต่แรกเกิด – 15 ปี โดยรวมทั้งสิ้น 6 ชนิด ดังต่อไปนี้
วัคซีนบังคับของเด็กไทย 6 ชนิด
1.วัคซีนป้องกันวัณโรค
ตัวย่อภาษาอังกฤษ คือ BCG ฉีดเมื่อแรกคลอด ส่วนมากฉีดที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้านที่ไหล่ซ้าย บางคนเรียกว่า ปลูกฝี
2.วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี
ตัวย่อภาษอังกฤษคือ HBV ฉีดทั้งหมด จำนวน 3 ครั้ง ได้แก่ เมื่ออายุ 0 – 2 – 6 เดือน
สำหรับคุณแม่ที่เป็นภาหะ โรคไวรัสตับอักเสบบี จะต้องฉีดตามนี้ 0 – 1 – 6 เดือน หรือตามที่กุมารแพทย์กำหนด
3.วัคซีนป้องกัน 3 โรค คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
ตัวย่อภาษาอังกฤษ คือ DTwP ใน 1 เข็มจะรวมตัวยาทั้ง 3 เข้าด้วยกัน ฉีดทั้งหมด 5 ครั้งด้วยกัน ตามช่วงอายุคือ 2 – 4 – 6 – 18 เดือน และครั้งสุดท้ายอายุ 4 – 6 ปี และทุก 10 ปี ต้องได้รับการฉีดกระตุ้นซ้ำ
4.วัคซีนป้องกันเชื้อโปลิโอ
วัคซีนป้งกันเชื้อโปลิโอ ชนิดรับประทาน ตัวย่อภาษาอังกฤษคือ OPV ต้องรับประทานหรือภาษเรียกง่ายๆคือ ต้องหยอดวัคซีนชนิดนี้ รวมทั้งหมด 5 ครั้ง ตามช่วงอายุดังนี้ 2 – 4 – 6 – 18 –เดือน และครั้งสุดท้าย อายุ 4 – 6 ปี
5.วัคซีนป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ตัวย่อภาษาอังกฤษคือ JE ต้องฉีดทั้งหมด รวม 4 ครั้ง ตามช่วงอายุคือ
ครั้งที่1 อายุ 9 เดือน
ครั้งที่2 อายุ 9เดือน 4 สัปดาห์ ตามหลักที่ถูกต้อง ห่างจากเข็มแรก 4 สัปดาห์
ครั้งที่ 3 อายุ 2ปี – 2ปีครึ่ง แล้วแต่กุมารแพทย์นัดหมาย
ครั้งที่ 4 อายุ 4 – 6 ปี แล้วแต่กุมารแพทย์ นัดหมาย
6.วัคซีนป้องกันโรค หัด คางทูม หัดเยอรมัน
ตัวย่อภาษาอังกฤษคือ MMR ฉีดครั้งแรกเมื่ออายุ 12 – 18 ปี และครั้งที่ 2 เมื่ออายุ 4-6 ปี แล้วแต่กุมารแพทย์ นัดหมาย
วัคซีนตามข้างต้นที่กล่าวมาเป็นวัคซีน ขาดไม่ได้ จำเป็นต้องฉีดทุกคนและครบทุกเข็ม แต่การฉีดต่างสถานที่ อาจมีชื่อวัคซีนที่แตกต่าง เนื่องจากมีหลากหลายบริษัทที่ผลิตวัคซีนชนิดนั้นๆ หากสงสัยคุณแม่ควรปรึกษาหรือสอบถามพยาบาลหรือกุมารแพทย์
ตารางการฉีดวัคซีนตามช่วงอายุ
นอกจากวัคซีนบังคับต้องฉีดดังที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีวัคซีนอีกหลายๆชนิด ทีวิจัยค้นคว้าให้เหมาะกับโรคในยุคปัจจุบัน จะฉีดหรือไม่ฉีดก็ได้ คำว่าฉีดหรือไม่ฉีดก็ได้ ทำให้คุณแม่หลายคนคาใจ และสงสัย ยังไงกันแน่ ทำไมหมอไม่ฟันธง คำว่าฉีดหรือไม่ฉีดก็ได้ของแพทย์ หมายถึง วัคซีนเผื่อเลือกนี้ไม่มีความจำเป็นสำหรับเด็กทุกคน แต่จำเป็นสำหรับเด็กบางกลุ่มเท่านั้น จึงไม่นำมาอยู่ในข้อกำหนดให้เป็นวัคซีน EPI และวัคซีนเผื่อเลือก ยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก ในบางครอบครัวที่มีรายได้น้อยและไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของโรค จึงถือว่าไม่จำเป็น หากคุณแม่ต้องการฉีด สามารถปรึกษากุมารแพทย์ได้ค่ะ
ปัญหาวัคซีนขาดทำอย่างไร
คำว่าวัคซีนขาด หมายถึง วัคซีนบางตัวเท่านั้นและเป็นวัคซีนนำเข้าจากต่างประเทศ จากปัญหาบริษัทมีปัญหาด้านการผลิต จึงยุติการผลิตวัคซีนชนิดนั้นๆไป ปัญหาดังกล่าว ไม่ได้มีเพียงประเทศไทยเพียงประเทศเดียว เกิดขึ้นกับทุกประเทศที่นำเข้าวัคซีนกับบริษัทนั้น และส่วนใหญ่เป็นวัคซีนเสริมไม่ใช่วัคซี่นบังคับ ได้แก่ วัคซีนรวม 5 โรค วัคซีนรวม 6 โรค คำถามต่อมาคือ แล้วคนที่ฉีกไปแล้ว ทำอย่างไร การแก้ปัญหาของกุมารแพทย์ คือ แนะนำให้ฉีดวัคซีน ชนิดเดียวกัน แต่ไม่ใช่วัคซีนรวม เหมือนกับการฉีดวัคซีนตามตารางวัคซีนบังคับ คุณพ่อคุณแม่ สบายใจได้เลย ว่า ลูกได้รับวัคซีนครบอย่างแน่นอน ต่างกันตรงที่บริษัทผู้ผลิตเท่านั้นค่ะ
หากมีปัญหาสงสัยเรื่องวัคซีน ควรปรึกษาอนามัยใกล้บ้านหรือกุมารแพทย์ทันที ไม่ควรเก็บข้อสงสัยนั้นไว้คนเดียว เพราะลูกของคุณอาจไม่ได้รับวัคซีนที่จำเป็นตามกำหนดค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team